รีวิว Superman 1980
ถ้าพูดถึงหนังฮีโร่ อันดับแรกๆ ในยุคเก่า หรือ อันดับหนึ่งในใจใครหลายๆคน หน้าพี่คริปโตไนท์ หรือซุปเปอร์แมน ต้องโผล่มาอย่างแน่นอนครับ ผมมั่นใจ ซึ่งวันนี้ ผมจะมารีวิวหนังฮีโร่ ที่น่าสนใจ แต่อาจจะเก่าไปหน่อยนะครับ สำหรับใครที่ดูไม่ทัน อยากให้ไปลองติดตามดูกัน หลังจากอ่านรีวิวของผมจบได้เลยครับ รับชมเรื่องนี้ได้แบบ ภาพชัดๆ ไม่เก่าตามปี ที่ ดูหนังออนไลน์
ชื่ออังกฤษ : Superman II (1980) ชื่อไทย : ซูเปอร์แมน II ภาค 2 ประเภทหนัง : Action, Adventure, Sci-Fi
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่ชื่นชมการแสดงของ Reeve, Stamp และ Hackman, วิชวลเอฟเฟกต์และอารมณ์ขัน ทำรายได้ 190 ล้านดอลลาร์เทียบกับงบประมาณการผลิต 54 ล้านดอลลาร์ ภาคต่อ Superman III ได้รับการปล่อยตัวในเดือนมิถุนายนปี 1983 ซึ่ง Lester กลับมาเป็นผู้กำกับ
หากคุณไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวเบื้องหลังเรื่องราวมันน่าสนใจทีเดียว เดิมที Richard Donner ถูกจ้างให้ถ่ายทำทั้ง Superman และ Superman II พร้อมกันหลังจากนั้นภาพจะถูกแก้ไขเป็นภาพยนตร์สองเรื่องแยกกัน น่าเสียดายที่สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำก็คือความแตกต่างมากมายเริ่มปรากฏขึ้นระหว่างดอนเนอร์กับโปรดิวเซอร์ชาวซอล์กกิ้นส์ ต้องติดตามกันต่อไปครับ
ภาคต่อที่เด็ดขาดไม่น้อยหน้าภาคแรก ครั้งนี้ซูเปอร์แมน ต้องรับมือกับ 3 จอมวายร้ายจากดาวคริปตอน (ซึ่งมีพลังเทียบเท่ากับเขา แต่เล่ห์เหลี่ยมมากกว่า) ซึ่งนำทีมโดย นายพลซอด และ เล็กซ์ ลูธอร์ คู่ปรับตัวแสบก็ยังแหกคุกออกมาร่วมขบวนด้วย ในขณะที่คลาร์ค เคนท์ (ซูเปอร์แมนในร่างนักข่าว) ก็กำลังมีความรักอยู่กับลอยส์ เลน แล้วเขาจะเปิดเผยให้เธอทราบหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วเขาคือใคร อันนี้ต้องติดตามครับ
ถ้าภาคแรกว่าดี ภาค 2 นี่จัดว่าเฉียบคมกว่า เนื้อหาหลากหลายมากขึ้น ปมนี่พันกันนัวเนียเลยครับ ไหนจะเรื่องความรักระหว่างซูเปอร์แมนกับลอยส์ เลน ยังมีเรื่องวายร้ายบุกตามมาอีก เออ หนังก็มันส์แบบเต็มพิกัดกันไปเลย และฉากตีกันช่วงท้ายก็ยอดเยี่ยมเอามากๆด้วย ให้อารมณ์ความมันส์แบบถึงเครื่องจริงๆ เทคนิคพิเศษก็ตระการตาดี
ชื่อ ผู้กำกับในเรื่องนี้คือ Richard Lester แต่ถ้าหากว่ากันตามหลักแล้ว ผู้กำกับตัวจริงก็ยังคงเป็น Richard Donner เจ้าเก่าอยู่ดีนั่นแหละ
รีวิว Superman 1980 เรื่องย่อ
เรื่องย่อ Superman II (1980) ซูเปอร์แมน II ภาค 2 ภาคต่อที่เด็ดขาดไม่น้อยหน้าภาคแรก ครั้งนี้ซูเปอร์แมน ต้องรับมือกับ 3 มหาวายร้ายจากดาวคริปตอน พลังสูสีกันครับ แต่พี่แกเหลี่ยมคมมากกว่า ทำให้ได้เปรียบอย่างมาก ซึ่งนำทีมโดย นายพลซอด และ เล็กซ์ ลูธอร์ คู่ปรับตัวแสบก็ยังแหกคุกออกมาร่วมขบวนด้วย ในขณะที่คลาร์ค เคนท์ นักข่าวซุปเปอร์แมน ฮา ก็กำลังมีความรักอยู่กับลอยส์ เลน แล้วเขาจะเปิดเผยให้เธอทราบหรือไม่ว่าจริงๆ ต้องติดตามชมเลย อย่ารอช้า ที่ เว็บดูหนังฟรี
แล้วเขาคือใคร อันนี้ต้องติดตามครับถ้าภาคแรกว่าดี ภาค 2 นี่จัดว่าเฉียบคมกว่า เนื้อหาหลากหลายมากขึ้น ปมนี่พันกันนัวเนียเลยครับ ไหนจะเรื่องความรักระหว่างซูเปอร์แมนกับลอยส์ เลน ยังมีเรื่องวายร้ายบุกตามมาอีก เออ หนังก็มันส์แบบเต็มพิกัดกันไปเลย และฉากตีกันช่วงท้ายก็ยอดเยี่ยมเอามากๆด้วย ให้อารมณ์ความมันส์แบบถึงเครื่องจริงๆ เทคนิคพิเศษก็ตระการตาดีชื่อผู้กำกับในเรื่องนี้คือ Richard Lester แต่ถ้าหากว่ากันตามหลักแล้ว ผู้กำกับตัวจริงก็ยังคงเป็น Richard Donner เจ้าเก่าอยู่ดีนั่นแหละคืออย่างนี้ครับ
ในปี พ. ศ. 2520 ผู้สร้าง ได้ตัดสินใจว่าจะถ่ายทำทั้งซุปเปอร์แมน และภาคต่อพร้อมกัน โดยการถ่ายภาพหลัก เริ่มในเดือนมีนาคม 2520 และสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2521 ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างผู้กำกับ Richard Donner และผู้อำนวยการสร้างซึ่งมีการตัดสินใจ หยุดถ่ายทำภาคต่อซึ่ง 75 เปอร์เซ็นต์ได้ถ่ายทำไปแล้วและจบภาพยนตร์เรื่องแรก หลังจากการเปิดตัวซูเปอร์แมนในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2521 ดอนเนอร์ถูกไล่ออกในฐานะผู้อำนวยการและถูกแทนที่ด้วยเลสเตอร์ สมาชิกของทีมนักแสดงและทีมงานหลายคนปฏิเสธที่จะกลับมาหลังจากการยิงของดอนเนอร์ เพื่อให้ได้รับเครดิตอย่างเป็นทางการในฐานะผู้กำกับเลสเตอร์ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ส่วนใหญ่อีกครั้งซึ่งมีการถ่ายภาพหลักในเดือนกันยายน พ.ศ. 2522 และสิ้นสุดในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2523 รีวิวหนังไซไฟ
ความประทับใจหลังดูจบ หนังเก่าแต่เก๋า
ภาพที่เราเห็นในภาคนี้ ส่วนใหญ่มันก็คือ ฟิล์มที่เหลือ จากภาคก่อนนั่นเอง ล้ำมากใช่ไหมครับ ซึ่งตอนนั้นผู้กำกับ Donner แกถ่ายทำเอาไว้ยาวมาก ในภาคแรกมันจบแค่ซูเปอร์แมนจับเล็กซ์ได้ แต่จริงๆ แล้ว Donner แกถ่ายยาวไปโน่นเลยครับ ถึงตอนที่ 3 วายร้ายจากดาวคริปตอนหลุดออกมาจากแฟนธ่อมโซน แล้วก็มีการต่อสู้กันไปยันจบเลย แต่ก็นั่นแหละครับ ขืนทำภาคแรกออกมายาวขนาดนั้นคงไม่มีคนทนดูและรายได้คงไม่มากเป็นแน่ ทีมงานเลยซอยภาคแรกฉายไปอย่างที่เห็น ส่วนฟิล์มที่เหลือก็เอามาทำตอนสองแทน แอบคล้าย คิวบิล อยู่เหมือนกันนะครับ ถ้าเพื่อนๆติดตามมาก่อนน่าจะอ๋อเลย
และยิ่งไปกว่านั้นชื่อ ของ Gene Hackman ขึ้นเป็นดารานำเลยเห็นกันใช่มั้ยครับ แต่เชื่อมั้ยว่าจริงๆ แล้ว Hackman ไม่ได้กลับมาถ่ายทำในกองถ่ายของ Superman II เลยแม้แต่ฉากเดียวครับผม
ครับ ใช่แล้ว ที่เราเห็น Hackman เล่นนั้น ทุกฉากล้วนมาจากฟิล์มของภาคแรกทั้งสิ้น จะมีก็เพียงบางฉากเท่านั้นที่ทีมงานต้องถ่ายใหม่ เลยใช้เทคนิคเอาคนหน้าตาท่าทางคล้ายคลึงมาถ่ายแบบไกลๆ แต่ถ้าถามว่าทำไมชื่อของผู้กำกับถึงไม่ใช่ Donner นั่นก็เพราะมีการตีกันภายในนั่นแหละครับ มีการขัดแย้งกับผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งงานนี้ก็มีการใช้เหตุผลคลาสสิคที่นักดูหนังน่าจะคุ้นเคย นั่นคือ “มีความเห็นเชิงสร้างสรรค์ที่แตกต่างกัน” เลยทำให้ร่วมงานกันไม่ได้นั่นเอง
ดังนั้นถ้าให้ว่าตามจริง การที่หนังดีอย่างที่เป็นนี้ หากต้องการชมใครล่ะก็ คงจะหนีไม่พ้นผู้กำกับ Donner นี่แหละครับ ที่ทำออกมาได้สนุกสุดๆ ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย เอาเป็นว่าถ้าชอบภาคแรก ก็ต้องตามมาดูภาคนี้ล่ะครับ เพราะมันเหมือนกับเป็น Kill Bill Vol. 1 กับ Vol. 2 นั่นแหละ เอามาดูต่อกันก็มันส์พิลึกเลยล่ะครับ
ในทางเทคนิคแล้วนี่ไม่ใช่ 100% “The Richard Donner Cut” แต่มันใกล้เคียงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภาพถูกติดตามอย่างพิถีพิถันคิดค้นและทำความสะอาดแล้วแก้ไขให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ Donner มีในใจเท่าที่จะทำได้ ยังมีฉากที่กำกับโดยเลสเตอร์ที่ต้องคงไว้เพื่อรักษากระแส แต่ส่วนใหญ่นี่คือภาพยนตร์ที่ Donner ต้องการทำ มันเลยออกมาเป็นสุดยอดหนัง ให้เราชมได้จนถึงทุกวันนี้ครับ
หากเพื่อนๆชอบหนังฮีโร่มันส์ๆ หรือรวมไปจนถึง หนังไซไฟ หนังแฟนตาซีสนุกๆ เรามีรีวิวมาอัพเดทให้ได้อ่านและตามไปชมได้ทุกวัน ที่ รีวิวหนังฮีโร่
