รีวิว Dune

สุดยอด หนังไซไฟ จากนวนิยายขายดีของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ที่ยอดขาย และผลตอบรับถล่มทลาย ไปทั่วโลก สู้การเปิดตำนานการเดินทาง สุดเข้มข้น ของเหล่าผู้กล้า เรื่องราวของตระกูล อาทีย์เดส ผู้สูงศักดิ์ หลังจากพวกเขา ได้เข้ามาปกครอง ดาวอันรกร้างที่เรียกว่า “อาราคิส” ที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิต spice หายากอันล้ำค่า พวกเขาถูกทรยศ เพื่อเปิดศึกชิงบัลลังก์ แล้วมันก็ตกมาเป็นหน้าที่ของหนุ่มน้อย พอล อาทีย์เดส  ที่จะต้องลุกขึ้นมาต้านการโค่นล่มอำนาจของจักรพรรดิแห่งกาแล็กซี โดยไม่มีอะไรเลย เว้นก็แต่กลุ่มชนเผ่าเร่รอนบนดาวอันรกร้าง โชคชะตาสุดประหลาด ที่ให้เราได้ติดตามที่ ดูหนังออนไลน์

ประสบการณ์ส่วนตัวของผมที่มีต่อ ‘Dune’ ในฉบับของผู้กำกับเดวิด ลินช์ (David Lynch) คงหนีไม่พ้นคำว่าเหวอแตกและง่วงหงาวหาวนอน ! แม้จะยอมรับว่าหนังฉบับปี 1984 ที่เมืองไทยอุตส่าห์ตั้งชื่อว่า ‘สมรภูมิจ้าวจักรวาล’ จะมีความทะเยอทะยานและงานโปรดักชันที่ดูไม่ขี้เหร่เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการสร้างที่ยังไม่รุดหน้าเท่าทุกวันนี้

จนส่วนตัวเองก็เชื่อไปแล้วว่านิยายเรื่องนี้ของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) คงไม่ใช่ของง่ายและน่าจะเป็นยาขมไม่น้อยสำหรับใครที่คิดจะหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่แล้วก็มีคนลองดีจนได้ และการตลาดก็ปั้นหน้าหนังซะกลายเป็นไซไฟผจญภัยเกินหน้าความเซน (Zen) ของนิยายไปหลายช่วงตัวแต่ในเมื่อมีชื่อของ เดอนีส วิลล์เนิฟว์ (Denis Villeneuve) ผู้กำกับชาวแคนาดาที่ฝีมือไม่ธรรมดาหยิบมาทำหนังคงยากที่จะห้ามใจไม่ให้ลองของกันอีกสักที

นี่ถือว่าเป็นหนังไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ผมยอมถ่อไปดูวันแรก เพราะว่าผมค่อนข้างชอบสไตล์การกำกับของวิลล์เนิฟอยู่แล้ว และถึงแม้หลายเจ้าจะบอกว่าหนังจะดำเนินเรื่องเอื่อยๆ ช้าๆ ผมก็ไม่สน Blade Runner 2049 ผมก็ผ่านมาแล้ว ฉะนั้นหนังเรื่องนี้ผมก็ไม่พลาดแน่นอน

 

 

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Dune

ประเภท: แอคชั่น / ไซไฟ / ผจญภัย

ผู้กำกับ: เดอนี วีลเนิฟว์

นำแสดงโดย: ทิโมธี ชาลาเมต์, รีเบ็กก้า ฟูเกอร์สัน, ออสการ์ ไอแซก, จอช โบรลิน

ความยาว: 156 นาที

รับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

อย่างที่ทุกคนทราบดีครับว่า Dune เป็นผลงานที่ดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของคุณแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ตในปี 1965 ซึ่งเป็นนิยายที่โด่งดังและเนื้อเรื่องกับเซ็ตติ้งที่หลายๆ คน ยกให้เป็น The Lord of The Rings ใน Genre Sci-Fi เลยทีเดียว พูดง่ายๆแบบไม่อวยนะครับ (หรือถ้าคนอ่านจะคิดว่าอวยก็ได้นะ เพราะหนังเขาดีจริงๆ) ขอบอกเลยว่านี่คือหนึ่งในหนัง Sci-Fi ที่ยอดเยี่ยมในปี 2021 และน่าจะครองตำแหน่ง สุดยอดหนัง si-fi ที่ดีทีสุดสำหรับผมไปอีกนา่น เพราะทั้งชีวิตที่เคยดูหนังแนวไซไฟมา (บวกกับส่วนตัวชอบดูอนิเมะแนวผู้กล้าๆ ปกป้องโลกเทือกๆนั้น) หนังเรื่องนี้ทำได้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ

 

รีวิว Dune-1

 

รีวิว Dune เนื่อเรื่อง พล๊อตเรื่อง การดำเนินเรื่อง ยอดเยี่ยมหาที่ติไม่ได้

Dune เล่าเรื่อง พอล อะเทรดิส อัจฉริยะหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมโชคชะตาอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเข้าใจ เขาต้องเดินทางไปยังดาวเคราะห์ที่อันตรายที่สุดในจักรวาลเพื่อความอยู่รอดและอนาคตของครอบครัวรวมถึงผู้คนของเขา หลังถูกรุกรานโดยกองกำลังวายร้ายหน้าเลือดที่หวังแย่งชิงทรัพยากรที่ล้ำค่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งสามารถใช้ดึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นของมนุษยชาติออกมาได้ และมีเพียงผู้ที่สามารถเอาชนะความกลัวได้เท่านั้นที่จะอยู่รอดในศึกครั้งนี้

การดำเนินเรื่องภายในเรื่องนี้จะไม่เหมือนกันตลอดเวลา ในช่วงแรก การดำเนินเรื่องจะคล้ายกับ Blade Runner 2049 ซึ่งเป็นช่วงที่คัดคนอยู่พอสมควร เพราะถ้าคุณสามารถอยู่ติดกับหนังได้ในช่วงนี้ หลังจากนั้นก็สบายๆ เลย แต่ถ้าคุณไม่ติดตั้งแต่ตรงนี้ ก็มีสิทธิ์ที่คุณจะเบื่อ และก็อาจไม่ชอบหนังเรื่องนี้ไปเลยก็ได้ แต่สำหรับผมไม่มีปัญหาครับ จูนติดตั้งแต่ 10 นาทีแรกของหนังเลย และตัวหนังหลังจากเลยช่วงแรกไปแล้ว ยังมีการดำเนินเรื่องที่เร็วขึ้น แต่ก็ไม่ได้เร็วถึงขนาดทีเห็นได้ชัดเจน

 

รีวิว Dune-2

 

ถ้าอิงจากเนื้อเรื่องตามนิยาย จะมีโครงประมาณนี้ครับ (ไม่มีสปอยนะครับ สามารถอ่านได้เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม) เปิดมาด้วย วันหนึงเมื่อจักรพรรดิพาดิชา ผู้นำสูงสุดของเหล่าดวงดาว มีบัญชาให้ดยุคเลโท อะเทรดีส เชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์สละดาวคาลาดานที่ตระกูลอะเทรดีสของเขาปกครองมานานเพื่อไปครองบัลลังก์บนดาวดวงใหม่ที่ชื่ออาร์ราคิส หรือที่รู้จักในนาม “ดูน” ดาวแห่งทะเลทราย

เป็นเหตุทำให้ดยุคเลโทจำใจต้องทำตามบัญชา แม้ว่าดาวอาร์ราคิสจะเป็นดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุดในจักรวาลอย่าง “สไปซ์” ที่อาจสร้างความมั่งคั่งให้กับตระกูลอะเทรดีสและประชาชนของเขา แต่ดยุคเลโทรู้ดีว่าคำสั่งย้ายไปครองดาวอาร์ราคิสครั้งนี้ต้องเป็นแผนร้ายของบารอนวลาดิเมียร์ ฮาร์คอนเนน แห่งตระกูลฮาร์คอนเนน ศัตรูคู่แค้น เขารู้ว่าจะต้องมีกับดักบางอย่าง และต้องเป็นกับดักที่อันตรายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เนื้อเรื่องฉบับภาพยนตร์ : พอล อาร์เทรดีส อัจฉริยะหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมโชคชะตาอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเข้าใจ เขาต้องเดินทางไปยังดาวเคราะห์ที่อันตรายที่สุดในจักรวาลเพื่อความอยู่รอดและอนาคตของครอบครัวรวมถึงผู้คนของเขา หลังถูกรุกรานโดยกองกำลังวายร้ายหน้าเลือดที่หวังแย่งชิงทรัพยากรที่ล้ำค่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งสามารถใช้ดึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นของมนุษยชาติออกมาได้ และมีเพียงผู้ที่สามารถเอาชนะความกลัวได้เท่านั้นที่จะอยู่รอดในศึกครั้งนี้ เขาจะรอดพ้นเหตุการณืนี้ไปได้หรือไม่ ติดตามต่อด้วยตัวเองที่ เว็บดูหนังฟรี

สำหรับเนื้อหานี้เรื่องนี้ ด้วยความที่ฉบับนิยาย มีจำนวนหน้ามากถึงเกือบพัน กว่าหน้า แล้วจะมายัดในเรื่องนี้แล้วคนดูจะต้อง ปูพื้นฐานเยอะไหม ดูยากไหมต้องบอกว่า ง่ายกว่าที่คิดครับเพราะว่าเรื่องนี้จริงๆเป็นเนื้อหาแค่ครึ่งหนึ่งของ นิยายทั้งหมดเกือบพันหน้า หน้าเท่านั้นเองครับบอกเลยว่าทำออกมาได้ดี และเรื่องนี้จึงเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร เชื่อมความสัมพันธ์เป็นหลัก แต่ก็มีการเล่าที่ไม่ได้น่าเบื่อ หรือ เอื่อยแบบที่คิด มีการต่อสู้เข้ามาแทรก การเล่าเรื่องฝั่งอื่นๆเข้ามา ทำให้ทั้งเรื่องสามารถติดตามได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

 

 

และเล่าเรื่องเป็น PART 1 เท่านั้นทำให้ตอนจบเองปลายเปิดไปภาคต่อได้ทันทีแบบไม่ต้องสงสัย เป็นหนังที่ เนื้อหาบท อาจจะเน้นปูเรื่องไม่ได้มีจุดพีค หรือหักมุมอะไรมาก แต่ก็เอาคนดูได้อยู่ไม่น่าเบื่อครับอันนี้ถือว่ายาก และทำได้ดีมาก เชื่อว่าใครที่ดูหนังจบออกมา ถ้ายังคงอินกับเรื่องราวอยู่ก็น่าจะต้องกลับมาศึกษาค้นคว้าอ่านเกี่ยวกับเรื่อง Dune เพื่อเป็นการทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันอีกยกใหญ่ เช่นเดียวกับความรู้สึกของผู้เขียน ที่อยากจะทำให้หนังออกบัญญัติความรู้และศัพท์ต่างๆ ออกมาให้ผู้ทั่วไปได้เข้าใจกันสักหน่อย เพราะบอกตรงๆ ว่าศัพท์แปลกๆ ที่เรียกกันเฉพาะในเรื่อง บางทีก็ยังตามไม่ทันเช่นกัน

Dune 2021 ยังเป็นหนังที่มีความเป็นวิลล์เนิฟอยู่สูงมากๆ เช่นกัน ตั้งแต่การถ่ายภาพและดนตรีประกอบ เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของหนังที่ขาดกันไม่ได้ เพราะตัวเรื่องนั้นสามารถนำเสนอภาพและดนตรีได้อย่างดีเยี่ยม และยังมีความสำคัญกับตัวเรื่องไม่น้อยเลยทีเดียว

เรื่องการแสดงอันนี้ไม่มีอะไรให้ติอยู่แล้ว นักแสดงทุกคนสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้ออกมาดีเยี่ยมและลึกซึ้ง
แม้ว่าจะยอดเยี่ยมขนาดไหน แต่ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ว่าหนังเรื่องนี้นั้นไม่ใช่หนังที่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน ด้วยการดำเนินเรื่อง เนื้อเรื่องที่สลับซับซ้อน และ Message ที่ตัวหนังพยายามจะสื่อออกมา อาจไม่เหมาะกับคนบางกลุ่ม ฉะนั้นถ้าคุณตั้งใจจะมาดูหนังเรื่องนี้ เพราะต้องการเสพฉากแอ็คชั่น ขอให้คิดให้ดีๆ นะ

Dune 2021 คืองานศิลป์ชั้นเลิศที่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึงได้ ด้วยการดำเนินเรื่องที่เฉื่อยชา ทำให้ตัวหนังอาจเข้าไม่ถึงคนบางกลุ่ม แต่ด้วยงานภาพที่สวยงาม เพลงประกอบอันยอดเยี่ยมที่ช่วยขับอารมณ์ออกมาได้ดี และเนื้อเรื่องที่สลับซับซ้อนแต่ทำให้เราสนใจได้ตลอดเวลา ก็ทำให้หนังเรื่องนี้ ควรค่าแก่การรับชม และถือเป็นหนึ่งในหนัง Sci-Fi ที่ดีที่สุดในปีนี้ แต่ถ้าคุณไม่ได้ชอบหนังแนวนี้ แต่อยากจะดู ขอให้เตรียมใจให้ดี แล้วคุณจะประทับใจ และได้อะไรจากหนังเรื่องนี้อย่างมากมายแน่นอน (ถ้าไม่หลับซะก่อนนะครับ)

ข้อดี จุดที่น่าสังเกตุของหนังเรื่องนี้ มีอะไรบ้าง

งานภาพ และ เสียง ส่วนตัวเป็นสาวกเรื่อง งานภาพ และเสียงอยู่แล้วต้องบอกตรงๆว่า คือที่สุดในปีนี้แล้วเท่าที่ดูหนังมา และไว้ใจได้ทั้ง งานเสียงจาก ฮานส์ ซิมเมอร์  และ งานภาพจาก Greig Fraser ทั้งคู่เมื่อรวมกันเรียกได้ว่าระดับเทพมาร่วมงานกันคือที่สุดแล้ว โทนของหนัง ซาวด์ไปด้วยกันแบบไม่มีจุดให้บ่น

นักแสดงเองนั้นระดับตัว top ทั้งหมดที่เข้ามาร่วมแสดงทั้ง ทิโมธี ชาลาเมต์ , เซนเดยา, เจสัน โมโมอา, เดฟ บอทิสตา, สเตลแลน สการ์สการ์ด  และ อีกมากมายทำให้เรื่องการแสดงเราเองไม่ต้องสงสัยในฝีมือการแสดง จนหลายๆคนอยากให้จัดเต็มมากกว่านี้ด้วยซ้ำ

 

 

แต่ทั้งเนื้อหา ตัวละครต่างๆนั้นเยอะมาก แต่ก็เข้าใจได้ง่ายไม่งงครับจุดนี้แบ่งได้ดี แต่หลายๆคนอาจจะไปเน้นจัดเต็มกัน ภาค 2 เป็นหลักก็ต้องติดตาม ทำให้การแบ่งช่วงที่ออกมา นำเสนอให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายไม่ แน่นเกิน

ต้องบอกว่ามันเป็นหนังที่ดีมากๆ แต่มันไม่เหมาะกับทุกคน หนังมาพร้อมงานออกแบบสุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็นฉาก ยาน เสื้อผ้า ทุกอย่างประณีตและสวยงามและอลังการมากๆ งานกำกับภาพชั้นยอดที่สวยงามทุกฉาก ฝีมือการแสดงอันสุดยอดจากดาราทุกคน และเนื้อเรื่องที่ค่อยๆ บ่มเพื่อรับใช้ตอนจบอย่างสวยงาม

มันคืองานคราฟต์ แต่ด้วยความเป็น Denis Villeneuve บทพูดที่มักเลือกพูดเป็นนัยยะและซ่อนความหมายจริง จังหวะการเล่าเรื่องที่เนิบช้าค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีจุดตื่นเต้นเป็นพิเศษ ถ้าคุณเป็นซิเนม่าไฟล์ ชอบการดูหนังที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้น ผูกปมซับซ้อน  นี่คือหนังที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด มันคือความสุนทรีย์ในการรับชมโดยแท้ แต่ถ้าคุณต้องการความบันเทิง ต้องการความพักผ่อน ต้องการอะไรที่เข้าใจง่าย คุณน่าจะรู้สึกว่ามันไม่สนุก (แต่ผมว่าคุณลองไปดูเถอะครับ สนุกแน่นอน) อวยจัดเลยเนี่ยยย รีวิวหนังไซไฟ