รีวิว Oz The Great and Powerful

หนังที่จะนำมารีวิว ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ในวันนี้ เป็นหนังแนวแฟนตาซี ที่เกี่ยวกับ หนุ่มน้อย ออซ นักมายากล ตกอับ แต่อยากมีชีวิตยิ่งใหญ่ วันนึงชะตาเล่นตลกให้เขาไปตกในเมืองลี้ลับ แต่ทุกคนในเมืองคิดว่าเขาคือพ่อมด และเขาใช้มายากลหลอกทุกคนว่าตนเป็นพ่อมดจริงๆ เรื่องนี้สนุกมาก มีแง่คิดดีๆ พล๊อตเรื่องแค่นี้ ก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมครับ หากใครอยากดูแบบเต็มเรื่อง ภาพชัด ต้องที่ ดูหนังออนไลน์

หนังเรื่องนี้นับว่าหนังตอบโจทย์สำหรับความบันเทิงสำหรับเด็กได้ในระดับหนึ่ง เหมาะกับผู้ใหญ่ที่จะพาเด็กๆ ไปชมครับ หนังเรื่องนี้สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเพราะเนื้อหาที่ค่อนข้างตลาดเข้าถึงคนดูตั้งแต่วัยเด็กยันผู้ใหญ่ แถมยังมีข้อคิดดีๆที่ทำให้ได้จรรโลงใจหลังจากดูหนังจบ ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ และถ้าดูแบบสามมิติย้ำอีกครั้งว่าจะทำให้ฟินกว่าเดิมแน่ๆ ผมคิดว่าดีครับที่หนังมันต้องให้อะไรคนดูมากกว่าคำว่าสนุกและเพลิดเพลินอย่างเดียว เพราะในฐานะที่หนังเป็นอีกสื่อหนึ่งที่ผู้เสพจะสามารถรับสิ่งที่หนังเสนอไปอย่างเต็มๆ

การที่หนังมีการ สื่อสาร ที่ดีและสร้างจิตสำนึกที่ดีแบบไม่ยัดเยียนสั่งสอนจนเกินไป น่าจะทำให้ยกระดับจิตใจคนดูให้สูงขึ้นไปขณะที่เสพงานศิลปะที่สวยงามอย่างนี้ด้วยครับ และถ้ามีโอกาสเรายังอยากกลับไปเที่ยวในออซอีกนะ ขอบคุณที่มอบความทรงจำที่สวยงามให้แก่กัน ขอบคุณที่ ทำให้ ประทับใจ และ มีความสุข กับการดูหนัง เรื่องนี้ ที่ เว็บดูหนังฟรี

 

 

เรื่องนี้นับ เป็นหนังแนวแฟนตาซี ผจญภัย ซึ่งก็ไม่ได้ แตกต่าง อะไรจากเรื่องอื่น มากนัก เพราะโดยหลัก ก็ยังเน้น การขายงานสร้าง และจินตนาการ ซึ่งก็ถือว่าทำออกมา ได้อย่างดีมาก ในระดับหนึ่ง เลยทีเดียว ขนาดดูแบบ ระบบดิจิตอล ความสวยงาม ของภาพ ยังจับตามากๆ คิดว่าถ้าเป็น 3D คงเป็นอีกเรื่องที่ทำออกมาได้สุดยอดแน่ๆ หนังยังมีความเป็นหนังครอบครัวที่ดูกันได้ทุกเพศทุกวัย ฉากต่อสู้ต่างๆ ทำออกมาได้อย่างสวยงามและไม่ดูรุนแรงเกินไป ขณะเดียวกันการดึงดาราดังๆ มาเล่นก็ช่วยดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ตอนต้นที่ปกติอาจไม่ถูกกับหนังแนวนี้ได้เป็นอย่างดี

ช่วงเริ่มแรกของหนัง จะแสดงภาพอยู่ในกรอบเล็กๆ กับภาพสีขาวดำ จนถึงเขาย่างก้าวเข้าสู่ดินแดนนั้น ภาพก็ขยายเต็มและทุกสิ่งก็กลายเป็นสีสันสดๆ ของดินแดนแห่งนั้น ผสานไปกับภาพ 3 มิติที่เล่นกับคนดูน่าตื่นตามากทีเดียว มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในตัวของพ่อมดออซ เขาได้รับหลายสิ่งหลายอย่างในการผจญภัยในโลกใหม่แห่งนั้น มีคนศรัทธาในเขาว่าจะมาช่วยขจัดปัดเป่าภัยร้ายได้ ทำให้เขาค้นพบอีกด้านของตัวเอง นอกจากนี้ คนดูก็ยังได้เห็นหลายๆ อย่างที่เปรียบเทียบไป ก็คล้ายกับหลายสิ่ง ที่เกิดขึ้นจริง บนโลกนี้อีกด้วย

 

 

แต่ด้วยเนื้อเรื่องของหนังถือว่าเป็นหนังที่มีคติสอนใจคนได้ดีอีกเรื่องเลยทีเดียว เพราะออซ ก็จะได้เรียนรู้ ว่าการหลอกลวง ที่เขาทำอยู่ จริงๆแล้ วมันคือความอุปโลก และ แสวงหาความยิ่งใหญ่ ให้ตัวเขาเอง แต่ถ้า สิ่งที่เขาต้องการ มันต้องแลก มาด้วยความหวัง และความศรัทธา ที่ชาวเมือง แห่งออซ ได้มอบให้ เขาจะเลือก ที่จะกอบโกย ผลแห่งอำนาจ เหล่านั้น เพื่อตัวเขาเอง อย่างเดียวจริงไหม หรือโชคชะตาบางอย่างจะนำพาให้เขาได้พบกับการแสวงหา “ความยิ่งใหญ่” มาได้อย่างถูกวิธี นั่นคือการมีจิตสำนึกภายใต้ความดี ความรัก และความสามัคคี ที่จะกอบกู้สิ่งที่เรียกว่า “ความหวัง” ที่หายไปของชาวออซกลับคืนมา

 

 

ข้อมูลภาพยนตร์ ออซ มหัศจรรย์พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่

ชื่อภาพยนตร์: Oz the Great and Powerful

ผู้กำกับภาพยนตร์: Sam Raimi

ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Mitchell Kapner (screenplay), David Lindsay-Abaire (screenplay),

นักแสดงนำ: James Franco, Michelle Williams, Rachel Weisz, Mila Kunis

แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy

เรท: ไทย/, USA/PG

ความยาว: 130 นาที

ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Walt Disney Pictures, Roth Films

วันเข้าฉายในประเทศไทย: 7 มีนาคม 2556

รับชมได้ทาง ดูหนังออนไลน์4k

 

รีวิว Oz The Great and Powerful-2

 

รีวิว Oz The Great and Powerful เนื้อเรื่อง

เริ่มต้นด้วยชีวิตของ ออสการ์ ดิกส์ นักมายากลผู้ไร้ชื่อเสียง ไม่มีใครจดจำ ทว่าหว่านเสน่ห์สาวๆ ไปทั่ว แต่วันหนึ่งก็เกิดเหตุจนต้องหนีขึ้นไปบนบอลลูน และถูกดูดเข้าไปในพายุหมุนจนมาปรากฏตัวอีกทีในดินแดนที่แปลกตาไม่คุ้นเคย มันคือดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ไม่เคยมีบนพื้นโลก สิ่งมีชีวิตแปลกๆ ที่ไม่เคยพบเจอ

พ่อมดออซของเราได้พบเจอกับแม่มดสาวในดินแดนแห่งนี้ถึง 3 ตน ต่างสวยสะกดใจคนดูกันไปคนละแบบ ธีโอโดร่า แม่มดตาโตสวยคมที่ออซได้พบเป็นคนแรก เธอหลงรักออซเข้าขั้นหนักทีเดียว ส่วน เอวานอร่า  พี่สาวของธีโอโดร่า ก็สวยคมดุดูสง่างาม ขณะที่กลินด้า คนนี้ก็สวยหวานน่ามองเป็นที่สุด แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะดูเหมาะกับเด็กๆ แต่ถ้าผู้ใหญ่ไปดู ก็คงจะเพลินไปกับสามสาวแม่มดอย่างแน่นอนเลย

ออซต้องอยู่ใน ดินแดนแห่งนั้นด้วยภาพลักษณ์ ของการเป็นพ่อมด อันชั่วร้าย และน่าหวาดกลัว แม้จริงๆ เขาจะไม่ได้เป็นก็ตาม แต่เขาก็มี เพื่อนร่วมผจญภัย ไปด้วยอย่าง เจ้าลิงตัวเล็กๆ น่ารัก มีปีก ที่กลายเป็น ผู้รับใช้ตลอดทาง และตุ๊กตาเครื่องเคลือบ เขาเพียงได้รับทราบ ข้อมูลว่า เมืองนี้กำลัง ถูกครอบงำด้วย แม่มดร้าย เขาคือชายในตำนาน ที่จะมาปัดเป่า ภัยร้าย และสร้างสันติสุข ให้เกิดขึ้น ทุกคนต่างเชื่อว่า เขาต้องกำจัดแม่มดตนนั้น ด้วยเวทมนตร์ ที่คนในดินแดนแห่งนั้น เชื่อว่าเขามี (จริงๆไม่มีนะครับ) สิ่งที่เขาต้องค้นหาก็คือ ต้องตามหาแม่มดร้า ยด้วยตัวเอง โดยมีทรัพย์สมบัติมากมายเป็นสิ่งล่อใจ

และจัดว่าเป็นการผจญภัย ที่น่าตื่นเต้น และ เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าค้นหา สุดแสนจะแฟนตาซี ให้เราได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ ที่จะทำให้คุณประทับใจ โดยที่ไม่มีวันลืม รีวิวหนังแฟนตาซี

 

รีวิว Oz The Great and Powerful-3

 

ความรู้สึกหลังชมหนังเรื่องนี้จบ

หนังเรื่องนี้ ได้ใส่แง่คิดดีๆ เพื่อสอนเด็กๆ เข้าไปได้อย่างกลมกลืน หนังมีปรัชญาและแง่ความจริงของชีวิตที่แทรกใส่เข้าไปในหลายๆ จุด บางครั้ง เราก็ไม่ได้มีเวทมนตร์เช่นนั้น เราอาจมีเพียงมายากลที่หลอกให้คนเชื่อว่ามันเป็นจริง คงอยู่ที่เราแล้วว่าจะเลือกทำสิ่งใด ค้นพบจิตใจของตัวเองและคนที่มองเห็นข้างในตัวตนของเราได้ในหนังเรื่องนี้

ตัวหนังยังมีตัวละคร CG ที่น่ารักและแย่งซีนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเจ้าลิงบินได้และตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ที่เชื่อว่าหลายคนต้องหลงรักแน่นอน และที่ชอบอีกอย่างคือเทคนิคการเล่าเรื่องด้วยภาพขาวดำในอัตราส่วน 4:3 ในช่วงต้นเรื่อง ก่อนจะขยายเป็นภาพสีสันสดใจเต็มจอ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้เรารู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของดินแดน Oz เข้าไปอีก รวมถึงนำเรื่องราวมายากลมาเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเวทย์มนต์แห่งนี้ ก็ทำได้อย่างสนุก และแตกต่างจากดินแดนเวทย์มนต์อื่นๆ ไม่น้อย

 

 

สำหรับออซ ไม่ต้องห่วงเลยว่าเรื่องนี้เราจะได้พบกับความแฟนตาซีจ๋าๆแน่ ตั้งแต่เห็นโลโก้และตัวอย่าง พอเดาออกไม่ยากว่าจะได้เห็นภาพของหนังแฟนตาซีสีลูกกวาดอีกเรื่องที่จะได้ชมอย่างเต็มตาทั้งเรื่อง ดูเผินๆอาจนึกว่าเป็น Alice in the wonderland ภาก 2 แต่ทีเด็ดของหนังเรื่องนี้นอกจากว่ามันได้มาจากวรรณกรรมและเคยเป็นหนังในตำนานเมื่อนานมาแล้ว ผู้ที่เอามาปัดฝุ่นทำใหม่นั้นยังเป็นผู้กำกับหนังชื่อดังอย่าง “แซม ไรมี่” ผู้ที่เคยปลุกปั้นสไปเดอร์แมนไตรภาคแรกเมื่อหลายปีก่อนมาแล้วนั่นเอง รีวิวหนังแฟนตาซี