รีวิว โลแกน The Best” of X-Men Series

รีวิว โลแกน

ในปี 2029 โลแกนหรือที่รู้จักกันในนามวูล์ฟเวอรีน กลายเป็นคนแก่ที่ความสามารถในการกลายพันธุ์เสื่อมถอยและหาเลี้ยงชีพเป็นคนขับรถ ดื่มเหล้าเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและเก็บรายละเอียดต่ำในที่ซ่อนทะเลทรายข้างเพื่อนเก่าของเขาชาร์ลส์ ซาเวียร์ (แพทริค สจ๊วร์ต). แต่ปัญหากลับพบว่าเขาอยู่ในร่างของกลุ่มทหารรับจ้างล่าสัตว์กลายพันธุ์เพื่อค้นหาเด็กสาวชื่อลอร่า (ดาฟเน่ คีน) ที่มีพลังอำนาจที่คุ้นเคย

เมื่อถูกถามถึงอิทธิพลในภาพยนตร์ของเขาที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องล่าสุด และคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องสุดท้าย ภาพยนตร์สแตนด์อะโลนของวูล์ฟเวอรีน ผู้กำกับเจมส์ แมนโกลด์ ได้รวบรวมรายชื่อที่น่าประทับใจและน่าดึงดูดซึ่งรวมถึง Western Shane ที่ไม่คลาสสิกมากไปกว่านี้ และ Little Miss Sunshineที่ร้อนแรงในแนวอินดี้ และตัวละครที่ มีรอยช้ำของ Darren Aronofsky The Wrestler ก็เขาไม่ได้โกหก อันที่จริงโลแกน เป็น หนี้หนังสามเรื่องนี้มากกว่าที่เป็น ที่เขียนโดยมาร์ก มิลลาร์ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการดัดแปลงที่ขาดหายไปมากที่สุด สำหรับแฟนๆหนัง marvel มีอีกมากมาย รับชมได้ที่ที่นี่ง่ายๆแค่คลิกเลย ดูหนังออนไลน์

อารมณ์โดยรวมนั้นมืดมนและสง่างาม เหมือนกับภาพยนตร์อลัน แลดด์ในปี 1953; Mangold (ร่วมเขียนบทกับสก็อตต์ แฟรงค์และไมเคิล กรีน) ยังมีตัวละครตัวหนึ่งที่พูดซ้ำคำพูดของเชนว่า ต่อเอฟเฟกต์การฉีกขาดอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน โลแกนเองก็สะท้อนภาพก้อนใหญ่ของมิกกี้ รูร์ก นักชกเหนือเขาในThe Wrestlerซึ่งเป็นเงาของอดีตนักฆ่าที่สมบูรณ์แบบของเขา เขายังคงสร้างใหม่ แต่ช้ากว่าและเจ็บปวด ทุกบาดแผลทิ้งรอยแผลเป็นไว้ เขาช้าลงและงุ่มง่าม กะเผลกและเซื่องซึม และแม้แต่กรงเล็บของเขาก็ไม่ ‘เยาะเย้ย’ อย่างที่เคย บางคนขี้เกียจและเริ่มติด

ไล่ตามองค์กรวิทยาศาสตร์ทางการทหารที่ขี้อวดฉลาดซึ่งจะทำให้วิลเลียม สไตรเกอร์ภาคภูมิใจ โลแกนผู้เฒ่าผู้เฒ่าพุ่งชนแอสฟัลต์ (ใน สไตล์ ลิตเติ้ลมิสซันไชน์ อย่างแท้จริง ) กับลอร่าสาวกลายพันธุ์ใบ้และห่านเฒ่าบ้าๆบอๆ คือศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ ซาเวียร์เล่นด้วยความอ่อนโยนสลับกับความเอร็ดอร่อยที่หยาบคายของสจ๊วร์ต ผู้ซึ่งพลิกบทบาทได้ดีที่สุดในขณะที่ชาร์ลส์ต่อสู้กับภาวะสมองเสื่อมด้วยยา สมองของเขา “ถูกจัดประเภทเป็นอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง” ตามความจำเป็น โลแกนปล่อยให้วูลวี่คลั่งไคล้คลั่งไคล้ในที่สุด

รีวิว โลแกน อะไรที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจ

พลิกกลับอย่างชาญฉลาดจากแนวโน้มหลังของ X-films เพื่อเพิ่มภัยคุกคามโลกผ่าน CGI ที่เข้าใจยากขึ้นเรื่อย ๆ Mangold รักษาสิ่งต่าง ๆ ให้มีเหตุผลและใกล้ชิด เป็นครั้งแรกที่ความตึงเครียดระหว่างสัญชาตญาณนักฆ่าสัตว์ของโลแกนกับการดิ้นรนเพื่อเป็นคนดีและเป็นคนดีได้รับการสำรวจในเชิงลึกและในระยะยาว มันให้ความรู้สึกเหมือนโรยเครื่องปรุงในสตูแอ็กชั่นผจญภัยน้อยกว่าเนื้อแท้ของละคร และเป็นสิ่งที่น่าอร่อยที่สุดในปฏิสัมพันธ์ของโลแกน ทั้งที่แสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจและการต่อสู้

กับซาเวียร์ที่ป่วยและถังผงขนาดไพน์นั่นคือลอร่า หนึ่งคือเสียงบ่นของมโนธรรมของเขา อีกอันคือโอกาสของเขาที่จะกำหนดอนาคตให้ดีขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เคยแข็งแกร่งทางอารมณ์มากไปกว่าการที่ทั้งสามคนนี้แชร์ฉาก

แต่เเล้วอยู่มาวันนึง เมื่อเนื้อหาเข้าสู่บทของครอบครัว จากคนที่เคยมีครอบครัว (มิตรสหาย ที่ตายจากกันไปหมด) แต่เป็นประเด็นครอบครัวจริงๆ (บทนี้จะทำให้นึกถึง อีริคในภาค Apocalypse) หนังค่อยๆใส่องค์ประกอบส่วนนี้เข้ามา การช่วยเหลือ น้ำใจ เจอครอบครัวที่อบอุ่น บรรยากาศเล็กๆ มันทำให้หนังมีความอบอุ่นมากขึ้น ประเด็นความสัมพันธ์ล่อร่ากับโลแกนมีมากขึ้น มันเหมือนทำให้มนุษย์ลุงไมาสนโลกปากแข็ง(ปากแข็งไปงั้นๆแหละ) แต่ด้วยจิตสำนึกของคนที่เป็น ถึงแม้กุจะไม่อยากทำก็เถอะ ลึกๆก็รักเเละเป็นห่วง

บอกตรงๆเรื่องนี้ตัวอย่างแทบไม่สนใจไม่อยากดู เพรสะเห็นก็รุ้เเล้วว่ามันไม่ได้บันเทิงฮีโร่อะไรเลย แต่มันเป็นหนังชีวิต ดราม่า บทสรุปของตัวละครตัวละครนึงที่เรารู้จักกับเขามานาน One Last Time บทส่งท้าย ตำนาน Wolverine ตลอดเวลา 17 ปี ที่เราเบื่อแม่งมาตลอด ว่าแม่งเด่นอยุ่คนเดียวมั่งอะไรมั่ง

Loganยังช่วยให้ Wolvie ผู้คลั่งไคล้คลั่งไคล้หลุดพ้นจากการสังหารที่กล้าหาญของDeadpool ได้ในที่สุด เขาตาบอด เขาเจาะสมองของคนเลวและทำให้แขนขาของพวกเขาขาด ทาสีทราย ผนัง และต้นไม้ให้เป็นสีดำด้วยเลือด ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย Wolverine โซโลที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าแจ็คแมนยอมรับการตัดเงินจริง ๆ เพื่อให้ได้รับการรับรองที่สูงขึ้น นั่นคือการคืนทุนของเขา

แม้ว่าจะไม่มีแรงกดดันทางการค้าและการประนีประนอมทางศิลปะที่ทำลายWolverines สอง ตัว สุดท้ายในท้ายที่สุด Logan ก็ แบ่งปันจุดอ่อนของพวกเขาบางส่วน แรงกระตุ้นที่จะแสดงผลลัพธ์ที่ไม่ดีอย่างมหาศาลในการเปิดเผยที่ไม่น่าพอใจที่เผยให้เห็นว่าความโกลาหลใต้พื้นพิภพของโลแกนเป็นตัวเป็นตนและเป็นตัวเป็นตนในลักษณะที่ชัดเจนและงุนงง และในขณะที่ช่วยเราเรื่องไร้สาระของหุ่นยนต์ซามูไรของThe Wolverine  การเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายนั้นไม่เน้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับฉากตึง ๆ ที่มาก่อนหน้านี้ในภาพยนตร์

และเนื้อเรื่องบทนี้คือบทสุดท้าย สื่อถึงตัวตนของชายคนนี้เป็นอย่างดี ในช่วงชีวิตบั้นปลายชีวิตของชายแก่ง่อยหัวล้านกับมนุษย์ลุง(แม่งทวดแล้ว)หัวร้อน ที่วางแผนจะไปล่องเรือในช่วงเวลาสึดท้ายของชีวิต ในอนาคตที่โลกมันไม่มีอะไรต้องวุ่นวายอีก Mutants คืออดีต Wolverine เป็นเพียงอดีตตำนาน X-Men เปนเพียงคอมมิคส์ รีวิวหนังไซไฟ

สังขาร พลัง ร่างกาย ที่เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา (จุดนี้จะคล้ายกับประเด็น Arc Reactor ใน Iron Man 2 ที่สตาร์คกำลังจะค่อยๆตายเพราะพิษของโลหะ) เมื่อสิ่งที่ไม่ควรมีในร่างกายมนุษย์ มันอยุ่ในร่างกายมนุษย์ มันก็เป็นพิษ และทำไห้ร่างกายค่อยๆเสื่อมสภาพ มันทำให้เรารู้ถึงความเจ็บปวดความทรมานจนตัวเองนั้นอยากจะตายๆไปซักที

อย่างไรก็ตาม หากนี่คือการวิ่งครั้งสุดท้ายของ Jackman ในฐานะ Logan ก็เป็นหงส์ที่คู่ควรที่ทำให้เขาสามารถขึ้นไปบนที่สูงได้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า เมื่อพูดถึงการเล่นแอนตี้ฮีโร่แม่เหล็กอย่างเหมาะสมกับภาพยนต์ยุค 70 ที่ดูหยาบกระด้างและบ่อเก็บความลึกภายในที่มืดมิด แจ็คแมนคือสิ่งที่ดีที่สุดในสิ่งที่เขาทำจริงๆ แฟนๆ marvel ที่อยากติดตามข่าวสารใหม่ๆ ที่อัพเดทใหม่ทุกวันเกียวกับ จักรวาล marvel ง่ายๆ แค่คลิกที่นี่มีทั้งสปอยหนัง รีวิวหนัง และยังอีกมากมาย

ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน

บอกตรงๆเรื่องนี้ตัวอย่างแทบไม่สนใจไม่อยากดู เพรสะเห็นก็รุ้เเล้วว่ามันไม่ได้บันเทิงฮีโร่อะไรเลย แต่มันเป็นหนังชีวิต ดราม่า บทสรุปของตัวละครตัวละครนึงที่เรารู้จักกับเขามานาน One Last Time บทส่งท้าย ตำนาน Wolverine ตลอดเวลา 17 ปี ที่เราเบื่อแม่งมาตลอด ว่าแม่งเด่นอยุ่คนเดียวมั่งอะไรมั่ง

และเนื้อเรื่องบทนี้คือบทสุดท้าย สื่อถึงตัวตนของชายคนนี้เป็นอย่างดี ในช่วงชีวิตบั้นปลายชีวิตของชายแก่ง่อยหัวล้านกับมนุษย์ลุง(แม่งทวดแล้ว)หัวร้อน ที่วางแผนจะไปล่องเรือในช่วงเวลาสึดท้ายของชีวิต ในอนาคตที่โลกมันไม่มีอะไรต้องวุ่นวายอีก Mutants คืออดีต Wolverine เป็นเพียงอดีตตำนาน X-Men เปนเพียงคอมมิคส์

ประเด็นสุดท้าย มันทำให้หลายคน ต้องมีร้องไห้แหละ มันเหมือนเราเดินทางมากับมัน เราผูกพันธ์กับมันมานาน ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาก็ด่ามันเกือบทุกภาคเพราะบทเด่นอยุ่คนเดียว มันเหมือนกับเรานั่งไทม์แมชชีนไปอนาคต ดูเรื่องราวบทสุดท้ายของเพื่อนเราที่เรารุ้จักมา 17 ปี **เพราะอายุขัยเราไม่เท่าเขา รอดูไม่ทันแก่ตายก่อน กับตำนาน Hugh Jackman ( Logan ) คนนี้ มันเหมือนกับว่าเรามาส่งเพื่อนรำ่ราเพื่อนยังไงไม่รุ้นะ และที่แน่นอน เราไม่อยากจากกับตัวละครนี้ แต่ทำไงได้ ลุงเล่นไม่ไหวแล้ว