รีวิวหนัง ไวกิ้งปะทะมังกร

วันนี้ผมจะมาพูดถึงอาจจะนอกกระแสสักหน่อย หนังเกี่ยวกับ ไวกิ้ง อย่างเรื่อง Outlander หรือชื่อไทย  ไวกิ้ง ปะทะปีศาจมังกรไฟ ไว้ กิ้ ง ปีศาจมังกรไฟ เรื่อง ย่อ โดยเรื่องนี้เกิดจากยานของพระเอกมาตกในยุคของ ไวกิ้ง และในช่วงที่หมู่บ้านไวกิ้งหมูบ้านนึงกำลังโดนปีศาจมังกรไฟ ออกมาไล่ฆ่าคนในหมู่บ้าน ซึ่งอาวุธของไวกิ้งที่มีอยู่ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย พระเอกจังได้นำชิ้นส่วนของยานมาทำอาวุธ เพื่อที่จะได้ลงไปฆ่าปีศาจ เพื่อนช่วยเหลือนางเอกที่โดนจับตัวไปเป็นอาหาร กับแก้แค้นให้คนในหมู่บ้านที่โดนฆ่าเป็น เป็นที่มาของความสนุกของหนังเรื่องนี้ครับ   ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง ไวกิ้งปะทะมังกร

รีวิวหนัง ไวกิ้งปะทะมังกร

คริสตศักราช 709 ประเทศนอร์เวย์ ยุคสมัยของชนเผ่าไวกิ้งที่กำลังเฟื่องฟูและเรืองอำนาจ ณ หมู่บ้านเฮร็อต ผู้คนในหมู่บ้านต่างไว้อาลัยให้กับการจากไปของ กษัตริย์เฮลก้า ซึ่ง “วูล์ฟฟริค” (Jack Huston) ทายาทผู้กระหายสงคราม แต่ยังขาดความชาญฉลาดในการปกครองคน ซึ่ง “ฮร็อตการ์” (John Hurt) ผู้ปกครองของที่นี่ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้ Outlander ไว้ กิ้ ง ปีศาจมังกรไฟ รีวิว และพยายามให้ “เฟร์ย่า” (Sophia Myles) ลูกสาวแต่งงานกับวูล์ฟฟริคเพื่อที่จะให้เขาปกครองอาณาจักรและให้ลูกสาวได้ปกครองวูล์ฟฟริคไม่ให้ทำอะไรนอกลู่นอกทางอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน ข้ามผ่านเส้นขอบฟ้าไปสู่ห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ก็มียานอวกาศลำหนึ่งตกลงมาในเขตเดียวกัน ซึ่งในซากของยาวอวกาศลำนั้น ก็มีผู้รอดชีวิตที่ชื่อว่า “ไคแนน” (James Caviezel) เขาเป็นนักรบจากต่างดาว และไม่ใช่เขาผู้เดียวที่โดยสารมากับยานลำนี้ ! มันก็ยังมีผู้โดยสารที่ไม่ได้รับเชิญอีกหนึ่งชีวิต “มัวร์เวน” คือสัตว์ประหลาดลักษณะคล้ายมังกรสุดกระหายเลือด และทรงพลัง ที่ได้ทำสงครามกับเผ่าพันธ์ของ ไคแนน มาอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเมื่อ มันได้หลุดออกมา มันก็ได้บุกทำลายล้างชนเผ่าไวกิ้งจนแทบหมดสิ้น ในที่สุด ไคแนน ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากร่วมมือกับชนเผ่า ไวกิ้งผู้กล้า ทำสงครามกับปีศาจร้ายตัวนั้นก่อนที่มันจะฆ่าทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้    ดูหนังใหม่

 

รีวิวหนัง ไวกิ้งปะทะมังกร

 

รีวิวหนัง ไวกิ้งปะทะมังกร เรื่องย่อ

สิ่งแรกที่ต้องขอชมสำหรับ Outlander คือการนำเรื่องราวที่ไม่น่าจะเข้ากันได้อย่าง มนุษย์ต่างดาว ไวกิ้ง และ มังกรไฟ มาผสมผูกเหตุการณ์อยู่ในหนังเรื่องเดียวกันได้ คือแค่คิดเนี่ยก็สนุกแล้ว เพราะเนื้อหาแบบนี้ส่วนมากมักจะไปปรากฎในรูปแบบเกมส์เสียมากกว่า แต่นั่นก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นคือ “แนวคิด” ที่น่าสนใจและมีความ “แปลกใหม่” อยู่ในระดับหนึ่ง Outlander ss2 Pantip  และก็จากการที่หนังเรื่องนี้มีความหลากหลายมาก มันจึงทำให้เราได้นึกถึงหนังเก่าๆหลายเรื่อง อาทิ ในส่วนของสัตว์ประหลาดที่ให้อารมณ์เหมือน Alien, Predator และ Godzilla รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศนอร์เวย์ และไวกิ้ง ทำให้นึกไปถึงตำนานของ Beowulf บุรุษผู้ทรงพลังที่ออกไล่ฆ่าสัตว์ประหลาด ซึ่งหลังจากได้ไปค้นประวัติของ “Howard McCain” ผู้กำกับหนังเรื่องนี้จึงทำให้รู้ว่า พี่แกเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องราวของ Beowulf เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ครั้งจะเขียนเป็นบทภาพยนตร์ก็ต้องการให้มีความแปลกใหม่ที่คนอื่นคาดไม่ถึง จึงได้หาแนวร่วมอีกคนคือนาย “Dirk Blackman” ที่ชื่นชอบเรื่องทำนองเดียวกันมาร่วมวงเสริมแต่งเรื่องราวโดยการใส่ความเป็นไซไฟ เทคโนโลยีขั้นสูงในเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่รูปร่างเหมือนมนุษย์กับยานอวกาศ ใส่ความดิบเถื่อนในเรื่องของตำนานพวกไวกิ้ง และสัตว์ประหลาดมังกรไฟ (ที่ในเรื่องควรเรียกว่า เอเลี่ยน ถึงจะถูก) จนในที่สุดก็กลายมาเป็นภาพยนตร์แอกชั่นเรื่องนี้

Outlander ถือเป็นหนังฟอมร์ระดับกลางๆ แต่ถึงกระนั้นหนังก็ยังมีสเปเชี่ยวแอฟเฟ็กที่อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ขี้เหล่เท่าไรนัก ซึ่งสิ่งที่ทำออกมาได้ดีที่สุดก็คือในฉากที่ตัวละคร “ไคแนน” เล่าให้ “เฟร์ย่า” ฟังการล่าอาณานิคมของเผ่าพันธ์เขาที่ต้องทำลายล้างเผ่าพันธ์ของ “มัวร์เวน” เพียงเพื่อต้องการดาวของพวกมันมาสร้างอาณานิคมตนเอง ประวัติศาสตร์ Outlander ที่ทำออกมาได้น่าตื่นตาทีเดียว แม้จะน่าเสียดายที่ฉากที่ว่ามีเพียงไม่กี่นาที ในส่วนของ “สัตว์ประหลาด” ในเรื่องแม้ในช่วงแรกๆของหนังจะใช่เทกนิคสไตล์หนังเกรดบีประเภทสัตว์ประหลาดโผล่มาอาละวาดตอนกลางคืนที่ให้เราเห็นแบบ วับๆแวมๆ ไม่ชัดมาก แต่ในช่วงหลังของหลังผู้สร้างก็ได้มาเน้นการปรากฎตัวของสัตว์ประหลาดที่ชัดเจนขึ้น (แม้ในเรื่องจะบอกว่าเป็นมังกรไฟ หรือเอเลี่ยนเมื่อว่ากันตามจริงที่รูปร่างคล้าย Godzilla) และฉากที่คิดว่าทำออกมาได้ดีอีกฉากก็คือการวางกับดักจับ “มัวร์เวน” ที่ทำออกมาได้น่าติดตามและงานด้านภาพในช่วงนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะฉากที่ “มัวร์เวน” กระโดดออกจากเปลวเพลิงกลายเป็นมังกรไฟทำลายหมู่บ้าน รวมไปถึงฉากรังของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ที่ดูหลอน ลึกลับ แต่ก็ดึงดูดสายตาดีทีเดียว  รีวิวหนังไซไฟ

 

 

รีวิวหนัง ไวกิ้งปะทะมังกร เรื่องย่อ

ถึงจะบอกว่า “แนวคิด” เป็นสิ่งที่หนังเรื่องนี้ได้เปรียบและน่าชื่นชมที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “บท” จะดีตามไปด้วย เพราะในหนังยังมีช่องโหว่งหลายจุดนัก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง “วูล์ฟฟริค” “เฟร์ย่า” และ “ไคแนน” ที่ยังดูไร้ความลึกเท่าที่ควร หรือแม้กระทั่งฉากจบที่ “ไคแนน” ตัดสินใจทำลายเครื่องส่งสัญญาณ เพื่อที่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้ นางเอก Outlander ที่ทำให้แอบคิดว่า ยานช่วยเหลือก็มาถึงโลกแล้วทำไมตัดใจจากไปโดยไม่ตรวจสอบอะไรเลย (พูดชัดๆก็คือ มาง่ายไปง่าย นั่นเอง) แต่หนังกลับสร้างปมการกระทำของเจ้าสัตว์ประหลาด “มัวร์เวน” ได้อย่างมีเหตุมีผล เพราะหนังสัตว์ประหลาดบางเรื่องมักจะเน้นแต่การสร้างเทกนิคจนลืมเรื่องของ “แรงจูงใจ” ไปสะส่วนใหญ่

ส่วนนักแสดงในเรื่องก็ถือว่าพอมีชื่อครับ เริ่มจาก James Caviezel ในบท “ไคแนน” ที่โด่งดังจากบทพระเยซูใน The Passion of the Christ (2004) ,Highwaymen (2003) หนังไล่ล่าคนขับรถโรคจิต และ Deja Vu (2006)หนังล่าทะลุเวลาทุนสูง ซึ่งใน Outlander ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่พี่แกได้เป็นดารานำแอกชั่นอย่างเต็มตัวครั้งแรกก็ว่าได้ แจ็ ค แร น. ด อ ล ส่วนเรื่องการแสดงนั้นก็ถือว่าสอบผ่าน แม้จะดูเป็นแอกชั่นหน้าตายไปหน่อยก็ตาม อีกคนคือ Sophia Myles ในบท “เฟร์ย่า” ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหน้าเธอจากซี่รี่ย์แวมไพร์ Moonlight , Tristan + Isolde (2006) หนังย้อนยุคที่ประกบดาราอย่าง James Franco และ หนังสงครามต่างพันธุ์เท่ๆอย่าง Underworld ทั้ง 2 ภาค ซึ่งเธอก็ดูเหมาะกับบทหญิงสาวที่เป็นทั้งนักรบและดูอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน และรุ่นใหญ่ John Hurt ในบท “ฮร็อตการ์” ที่แม้บทจะไม่มากแต่ก็ถือว่าดูเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือกับบทผู้ปกครองเฮร็อตครับ  รีวิวหนังแฟนตาซี

 

 

สรุปเรื่องย่อ

โดยรวมแล้ว Outlander เป็นหนังแอกชั่นที่มีความสดในด้านเนื้อหา แต่ก็มีการดำเนินเรื่องแบบสูตรสำเร็จไปหน่อย Outlander แฟรงค์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังสัตว์ประหลาดนิดๆ ไซไฟหน่อยๆ ที่มีฉากหลังแนวย้อนยุค ทั้งนี้ Outlander ถือเป็นหนังที่มีความพยายามของผู้สร้างในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆในวงการภาพยนตร์ ซึ่งแม้ผลลัพธ์ที่ได้มาอาจะไม่ได้ดั่งใจผู้ชมมากนัก แต่ก็ถือเป็นความบันเทิงในระดับที่น่าพอใจแล้ว ยิ่งเมื่อเทียบกับหนังฟอร์มเดียวกันเรื่องก่อนๆ  รีวิวหนังใหม่

อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร เป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ ของดรีมเวิร์กสแอนิเมชัน ปี ค.ศ. 2010 ที่ได้เอาแบบจากหนังสือเรื่อง How to Train Your Dragon ในปี 2003 ภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อคือ อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 2 วิกิพีเดีย
วันที่ออกฉาย: 25 มีนาคม 2553 (ประเทศไทย)
ผู้กำกับ: คริส แซนเดอร์ส, ดีน เดอบลัวส์
ดัดแปลงจาก: How to Train Your Dragon
กำกับ: Chris Sanders; Dean DeBlois
ดนตรีประกอบ: John Powell
นักแสดง
เจย์ บารูเชล , ฮิคคัพ ฮอร์เรนดัส แฮดด็อค ที่สาม , เจอราร์ด บัตเลอร์ , สโต๊ยค์ เดอะ วาสต์ , อเมริกา เฟอร์เรรา , แอสทริด
คริสเตน วิก , รัฟนัท , โจนาห์ ฮิลล์ , สนอทเลาท์ , เคร็ก เฟอร์กูสัน , ก๊อบเบอร์ , ที.เจ. มิลเลอร์ , ทัฟนัท , คริสโตเฟอร์ มินท์ซ-พลาสส์