รีวิวหนัง SPIDER MAN FAR FROM HOME สไปเดอร์-แมน ฟาร์ ฟรอม โฮม

หลังจากที่ได้ดูฉากอันอลังการของพวกสาวก ดูหนังฟรี เรื่อง Avengers : Endgame และมันก็ส่งผลทำให้คาดหวังกับหนังเรื่อง Spider-Man Far From Home ก็ย่อมสูงตามไปด้วย เนื่องจากมันถูกวางให้กลายเป็นหนังปิดเฟส 3 เพื่อปูทางไปสู่เฟส 4

หลายๆคำถามก็ถาโถมกับการมาของหนังเรื่องนี้ ทั้งสไปเดอร์แมนจะเป็นผู้นำอเวนเจอร์สคนต่อไปหรือไม่ หรือหลังเหตุการณ์ดีดนิ้วของธานอสจะกลายเป็นการมิติเวลาให้มาร์เวลได้นำซูเปอร์ฮีโร่ตัวอื่นๆ ที่เคยไปอยู่กับฟอกซ์มาร่วมใน MCU หรือไม่ ดูหนังออนไลน์ น่าดูน่าติดตามได้ที่นี่

ซึ่งก็เหมือนผู้สร้างอย่าง เควิน ไฟกี จะเข้าใจแฟนๆ ดีดังนั้นมันจึงนำมาสู่การคิดพลอตสำหรับปิดเฟส 3 นี้เพื่อให้ทุกคนตั้งตารอเฟสต่อไปถ้ามันไม่สามารถที่จะนำพาเหล่าแฟนๆให้สนุกกับหนังเรื่องนี้ได้ มันก็จะลงเอยเป็นรอยด่างพร้อยสำหรับหนังปิดเฟส 3 เรื่องนี้

รีวิวหนัง SPIDER MAN FAR FROM HOME สไปเดอร์แมนฟาร์ฟรอมโฮม

รีวิวหนัง SPIDER MAN FAR FROM HOME หนังแนวฮีโร่ แฟนตาซี

รีวิวหนังแฟนตาซี  สิ่งที่เราพอจะบอกได้แบบไม่สปอยล์เนื้อหาสำคัญคือบทหนังมีลูกเล่นที่ดีประมาณหนึ่ง มันพยายามสานต่อ และ ตั้งคำถามหลังการจากไปของโทนี สตาร์ค ใน Avengers : Endgame ว่าถ้าโลกไร้ผู้นำอย่างไอรอนแมนหรือการเปลี่ยนตัวกัปตันอเมริกาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

โดยที่ยังพยายามเล่าเรื่องไม่ให้เกินขอบเขตของการเป็นหนัง Spider-Man ซึ่งมันเลยไปเน้นความขัดแย้งภายในของตัวละครปีเตอร์ พาร์คเกอร์ที่เขารู้สึกว่าในขณะที่ตนอายุแค่ 16 ปีทำไมต้องมาแบกรับภารกิจกู้โลก รวมถึงต่อให้ตัวเองเป็นซูเปอร์ฮีโร่เขาก็ไม่มั่นใจอยู่ดีว่าเอ็มเจจะชอบเขาหรือชอบสไปเดอร์แมนกันแน่

รีวิวหนังแฟนตาซี น่าดู  แถมมีการสร้างบทตัวละครอย่าง มิสทีริโอ บุคคลที่มาจากอีกโลก คือ เอิร์ธ 833 (โลกของเหล่าอเวนเจอร์คือเอิร์ธ 616)เป้นคนที่มาพร้อมพลังมหาศาลที่ต่อสู้กับสิ่งประหลาดโดยใช้ 4ธาตุในการต่อสู้ได้เห้นฮีโร่มาใหม่ทำใจปีเตอร์นั้น หมดศรัทธาในตัวเอง

และนั้นมันยังไม่จบ หลังนิค ฟิวรี ได้มอบสิ่งบางอย่างให้ปีเตอร์ (EDITH) ของโทนี่ สตาร์คให้ ตั้งชื่อจาก (Even [I’m] Dead I’m The superHero) ทำให้เกิดคำถามในใจว่าเขานั้นมันคู่ควรกับการเป้นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของ โทนี่มั้ย

ดังนั้นภารกิจหลักในหนังมันจึงเหมือนแบบทดสอบสุดหินให้ ปีเตอร์ ต้องเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดในทุกข้อ แต่อย่าลืมนะครับว่าเขาเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งดังนั้นความสนุกจึงมาจากการที่ปีเตอร์เลือกข้อที่ผิด แล้วค่อยตามแก้ไขนี่แหละ

ซึ่งถือเป็นการสะท้อนให้เห็นปัญหาของเด็กยุคมิลเลนเนียลได้อย่างเห็นภาพเลยว่าในขณะที่พวกเขาต้องการเป็นตัวเองก็กลับต้องมาแบกรับความคาดหวังของผู้ใหญ่จนหลายครั้งก็เลือกที่จะดื้อ และ เดินไปในทางที่ผิดบ้าง

รีวิวหนัง SPIDER MAN FAR FROM HOME สปอยหนังเรื่อยๆ

ว่ากันถึงจุดที่ผมคิดว่ายิ่งเขียนยิ่งเสี่ยงสปอยล์มากๆ คือตัวผู้ร้าย เพราะถือว่าเป็นทั้งจุดที่ดี และ จุดบอดของบทหนังอยู่เหมือนกัน โดยสิ่งที่เราพอจะบอกได้เกี่ยวกับผู้ร้ายหรือวิลเลียน (Villian) องค์ประกอบสำคัญสำหรับหนังซูเปอร์ฮีโร่ในภาคนี้

คือมันพยายามหักเหทิศทางการเล่าเรื่องให้ต่างจากฉบับคอมิค และ เรื่องคนที่ทีอ่านมาแล้วจะเป็นคนที่ “รู้ก่อน” หนังฉายแล้วว่าชื่อตัวละครตัวนี้คือใคร มีที่มาอย่างไร และ แม้ทางผู้สร้างจะทำให้มันไม่เหมือนกันในคอมิคและทำให้มันต่างจากฉบับเดิมเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์

ไม่ว่าจะทำยังไงมันก็เหมือนในฉบับคอมมิคอยู่ดี ที่สำคัญการเปลี่ยนรายละเอียดไปหมด ไม่เหลือเค้าเดิมของคอมมิคก็โดนพวกกองเชียร์แฟนคอมมิกมาแล้วจากหนึ่งในหนังจักรวาล MCU แต่ก็ต้องยอมรับว่าการ ‘ดัดแปลง’

ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในการให้มันกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับหนังสำหรับปิดเฟส3 และ ที่สำคัญมันยังสะท้อนถึงภัยร้ายที่มากับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้ดีทีเดียว แม้ว่าจะแลกมาด้วยความสมเหตุสมผลของเรื่องแบบเลี้ยวหักศอกไปบ้างก็ตาม

รีวิวหนัง SPIDER MAN FAR FROM HOME สไปเดอร์แมนฟาร์ฟรอมโฮม

รีวิว SPIDER MAN FAR FROM HOME จุดแข็งของหนังเรื่องนี้

อีกอย่างหนึ่งใน หนังเรื่องSpider-Man ก็มีจุดที่แข็งเหมือนกัน น่าจะเป็นการวางเรื่องไปแนวทางคอมเมดีมาจากผู้กำกับอย่าง จอน วัตส์ ที่เค้าทำได้ดีมากตั้งแต่ภาค Spider-Man Homecoming (2017) ที่นำมุกต่างๆมาให้กับนักแสดงรอบๆตัวสไปเดอร์แมน

อย่าง เนด ที่ได้ จาคอบ บาตาลอนมาเล่นเป้นเพื่อนสนิท ฮีโร่สไปเดอร์แมนและมีการปล่อยมุกมากมาย บางซีนก็ขโมยฉากไปเลยก็มี และภาคนี้ ได้มีบทโรแมนติกกับ เบตตี ที่ยังได้ แองเกอเรีย ไรซ์ที่มารับบทเป้นคุณหนู แฟน เนด ที่เล่นได้เข้าขากันมากเลยถ้าเจอกับพวกเขาทั้งคู่เตรียมท้องแข็งได้

แถมในทริปยุโรปครั้งนี้ยังได้ตัวละครรุ่นครูอย่าง มิสเตอร์เบลที่แสดงโดย เจบี สมูฟ และ มิสเตอร์แฮริงตัน นักแสดงโดย มาร์ติน สตารร์ มาเล่นในบทคุณครูที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเรียกเสียงฮาให้คนดู

ที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ป้าเมย์คนสวย รับบทโดย มาริสา โทเมอิ กับ แฮปปี โฮแกน รับบทโดย จอน ฟาฟโรที่หลานชายอย่างปีเตอร์ยังแอบคิดว่าทั้งคู่ครบกัน นอกจากนี้หนังยังเต็มไปด้วยมุกตลกที่มาทั้งการใช้เพลง I will always love you เรียกง่ายๆว่าใครหวังมาคลายเครียดก็จะได้ความฮาเป็นของแถมควบคู่ไปกับฉากแอ็คชั่นแน่นอน

นักแสดงทำได้ดีกับบทมากเลย

เรามาเล่าถึง ทอม ฮอลแลนด์ ในภาคนี้เขาได้แสดงให้เราได้เห็นว่าดราม่ามันสื่อถึงความเป็น ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ที่ต้องมารับบทที่ยิ่งใหญ่ในการปกป้องโลกและคาดหวังต่อจาก โทนี สตาร์ค ที่เสมือนพ่อบุญธรรม

แถมยังต้องตั้งคำถามกับบทบาท และ ที่ยืนของตัวเองทั้งในโลกซูเปอร์ฮีโร่ และ การเป็นเด็กไฮสคูลได้อย่างยอดเยี่ยม และ แฟนๆจะได้เห็นฉากโรแมนติก อารมณ์โรแมนติกแอบเนิร์ดระหว่างเขากับ เอ็ม เจ ที่รับบทโดยสาวสวยหน้าเก๋ เซนดายา

ที่เราต้องลุ้นตั้งแต่เปิด เรื่องยันฉากจบว่าทั้งคู่จะได้ลงเอยกันมั้ย จนหนังภาคนี้น่าจะถือได้ว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลที่มีกลิ่นอายของหนังวัยรุ่นตลกโรแมนติกยุค 90 ที่สุดแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นการขยายฐานสู่แฟนหนังสายหวานได้ดีเลยทีเดียว

ก็นับได้ว่า ยังคงรักษามาตรฐานหนังจากจักรวาล มาร์เวลไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ในแง่ของความบันเทิงควบคู่กับมาตรฐานโปรดักชัน โดยนอกจาก บทภาพยนตร์ งานกำกับ และ การแสดงแล้ว และอีกจุดไม่ชมไม่ได้คืองานประพันธ์ ของ ไมเคิล กีแอคชีโน

ที่ยังคงจับบรรยากาศของสถานที่ต่างๆในยุโรปใส่มาให้เราฟังแบบแทบจะเหมือนเดินเที่ยวกับตัวละครได้เลย ควบคู่ไปกับงานกำกับภาพของ แมตธิว เจ ลอยด์ ที่ใช้เทคโนโลยีกล้องจาก RED มันทำให้หนังเรื่องนี้ให้ภาพคมชัด

โดยเฉพาะซีนกลางคืนที่ต้องบอกว่าหนังถ่ายได้สวยมากครับ เอาล่ะรีวิวมาขนาดนี้ เลี่ยงสปอยล์ขนาดนี้ คงไม่พลาดกันแล้วล่ะเนอะปล. มีฉากหลังเอนด์เครดิต 2 ฉากนะครับ มีความสำคัญกับเรื่องราวในเฟสต่อไปแน่นอน

ข้อมูลของหนัง

Spider-Man: Far From Home
แนว : Superhero / Action / Adventure / Comedy
กำกับโดย : จอน วัตต์
แสดงนำโดย : ทอม ฮอลแลนด์ / เจค จิลเลนฮาล / ไมเคิล คีตัน / จอน ฟาฟโรว์ / แซมมวล แอล. แจ็คสัน / เซนดาย่า
ผลิตโดย : Walt Disney / Marvel Studios / Columbia Pictures
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
ความยาว: 129 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
สตูดิโอ/ ผู้สร้าง /ผู้จัดจำหน่าย: Columbia Pictures, Marvel Studios, Pascal Pictures Walt Disney
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 3 กรกฎาคม 2562