รีวิวหนัง Wonder Woman 1984 วันเดอร์ วูแมน 1984

และแล้วเรามา ดูหนังฟรี เรื่องนี้ คิดว่ามีคนที่ รอคอยกันมาหลายปีกว่าที่ภาคต่อของซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่มีความแข็งแกร่งมากๆจะกลับมา ทำให้ดูกันอีกครั้งเรื่องครั้งนี้คือ ‘Wonder Woman 1984’ ชื่อไทยตรงตามตัวว่า ‘วันเดอร์ วูแมน 1984

ดูหนังออนไลน์  มันจะเป็นการเล่าเรื่องย้อนๆไปอดีตหน่อยๆปี 1984 ลองไปดูประวัติความเป็นมาของฮีโร่คนนี้กัน ที่อยู่กับความเปลี่ยวเหงาเพราะคนรักจากไป และภารกิจครั้งใหม่ครั้งนี้จะหนักหนาและเธอต้องหาทางแก้ไขอย่างไรบ้าง

ผลงานของผู้กำกับ แพ็ตตี้ เจนกิ๊น ที่ลงมาเชียนบทเองเลยแม่คุณ จพเหมาไปซะทุกเรื่อง นักแสดงนำ นอกเหนือจาก กัล กาด็อท ผู้แสดงเป็นวันเดอร์ วูแมนแล้ว ก็ยังมีนักแสดงนำที่เป็นคนรักของฮีโร่หญิงอย่าง คริส ไพน์ ที่กลับมาปรากฏบนจออีกครั้ง ซึ่งหลายคนก็คงจะสงสัยว่า เขาจะกลับมายังไงในเมื่อเขาตายไปในภาคก่อน

รีวิวหนัง Wonder Woman 1984 เรื่องย่อ

รีวิวหนังแฟนตาซี  เรื่อง วันเดอร์ วูแมน 1984 ราวในครั้งนี้ ไดอาน่า หรือ วันเดอร์ วูแมน (กัล กาด็อท) เธอใช้ชีวิตแบบเศร้าหมองเปล่าเปลี่ยวที่วันๆต้องคิดถึงอดีตที่ไม่มี สตีฟ เทรเวอร์ (คริส ไพน์) ชายหนุ่มนักบินคนที่เธอรักสุดหัวใจคนเดียวตลอดกาล ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เสื้อผ้าหน้าผมที่อาจเปลี่ยนไปตามกาล

แต่ทำหน้าที่ซูเปอร์ฮีโร่หญิงทรงพลังของเธอนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงการที่ทำงานในมูลนิธิได้ทำให้เจอกับเธอนั่นบุคลิกไม่มั่นใจตัวเอง บาร์บาร่า มิเนอร์ว่า (คริสเตน วิก) เพื่อนร่วมงานที่ไดอาน่ามักแวะเวียนไปเยี่ยมเยือน จนได้พบกับวัตถุโบราณอันเป็นที่มาของภาคนี้หนังมีตัวนางเอก

รีวิวหนังแฟนตาซี น่าดู มีตัวแปรที่ที่ทำให้เกิดเรื่องมันต้องมีตัวผู้ร้าย และส่วนในภาคนี้เป็นทีของชายลูกหนึ่งที่ชื่อ แมกซ์เวล ลอร์ด (เพโดร ปาสคาล)นักธุรกิจที่มีฝันทำบ่อน้ำมันที่ใช้พลังจากวัตถุโบราณชิ้นนั้นมาสร้างพลัง ความทะเยอทะยานสุดขีดสร้างตัวร้ายขึ้นมา และทำให้วันเดอร์ วูแมน ต้องลำบากลำบนในการจะช่วยโลกมากเป็นที่สุด

ไดอาน่า ผู้มีชีวิตยาวนาน นานจนคนดูอย่างผมยังคิดว่า ช่างเป็นชีวิตที่น่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ ชีวิตที่อยู่เพื่อช่วยคนอื่นอาจจะเป็นชีวิตที่มีคุณค่ามีบุญสำหรับใครๆ แต่ชีวิตที่อยู่ด้วยการทำเพื่อคนอื่น แต่ตัวเองไม่เคยได้ความสุขส่วนตัวมาหล่อเลี้ยงยาวนานเช่นนั้น มันจะอยู่อย่างมีกำลังใจได้อย่างไร

การที่เล่นหับบทของจิตใจของตัวละครนั้น มันทำให้คนดูเข้าใจตัวไดอาน่า ที่ใช้ชีวิตยาวนานตั้งแต่ ปี1984 อย่างเปลี่ยวเหงา คนรักตายจากไปนานแสนนาน และเธอก็ฝังใจรักเดียวไม่คิดจะมีใหม่ และเรื่องราวสำคัญของภาคนี้ก็เป็นเหตุผลโดยตรงที่ทำให้เขากลับคืนจออีกครั้ง

รีวิวหนัง Wonder Woman 1984

รีวิวหนัง Wonder Woman 1984 หนังน่าดู

เรื่องราวของวัตถุโบราณที่สัมผัสและอธิษฐานขอแล้วมันจะเป็นจริงหนังภาคนี้จึงดูจะมุ่งเน้นเรื่องราวในด้านจิตใจที่อ่อนแอของมนุษย์มากเป็นพิเศษ บางคนอาจจะรู้สึกตัวเองไร้ค่าต่ำต้อย โดนดูถูกเหยียดหยาม ไม่เป็นที่รักใคร่ ไม่โดดเด่น จึงอยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม อยากแข็งแรง เซ็กซี่ เป็นที่สนใจ อะไรแบบนี้

บางคนก็อาจจะรู้สึกว่าตนเองไม่ร่ำรวย ชีวิตไม่สะดวกสบาย เลยแสวงหาเครื่องมือที่จะทำให้ความปรารถนาเป็นจริงและเจ้าวัตถุโบราณก็เข้ามาทำงานตรงนี้ ก่อกำเนิดเป็นความขัดแย้งและสร้างเรื่องสร้างราวขึ้นมาสิ่งที่ยึดโยงอย่างเดียวไดอาน่าก็คงจะเป็นสตีฟคนนี้

และเมื่อเธอแสดงความต้องการต่อวัตถุโบราณนั้น มันจึงให้สตีฟแก่เธอ โดยที่เธอไม่รู้ว่ามันจะก่อผลเสียบางอย่างในภายหลังภาคนี้มันทำการเล่นที่เกี่ยวกับอารมตัวละครมากเลย กินลึกเข้าไปในใจของตัวละครซึ่งพอจะทำให้คนดูได้มองเห็นมิติของตัวละครต่างๆ

โดยเฉพาะไดอาน่าได้มากกว่าเดิมเราจะได้เห็นตัวละครซูเปอร์ฮีโร่หญิงแสนทรงพลัง กลับต้องสะบักสะบอม อ่อนแอลงแต่ไม่เท่ากับการเล่นกับความเสียใจทางด้านจิตใจ ด้าน คริส ไพร์ นั้นอาจจะไม่มีบทบาทในการต่อสู้สักเท่าไร แต่เคมีของเขากับ กัล กาด็อท ก็ทำเอาหลายคนอินมาก ยังไงก็ตามแต่

รีวิวหนัง Wonder Woman 1984 อย่าพลาดหนังซุปเปอร์ฮีโร่

เขายังเป็นกำลังสำคัญในช็อตคอมิดี้และสำคัญต่อจิตใจของไดอาน่าอย่างยิ่งมันช่างน่าเสียดายอยู่บ้างที่ไม่ค่อยจะอินในบทตัวร้ายเลย อย่างแมกซ์เวล ลอร์ด ผู้ที่ใช้ความรู้สึกขี้แพ้เป็นแรงจูงใจ แต่ข้อดีอย่างหนึ่งของตัวละครตัวนี้ก็คือ

เขาจะค่อยๆ เพิ่มความเลวร้ายมากขึ้นตามลำดับ เหมือนผู้ชมจะได้มองเห็นพัฒนาการ(ในด้านเลว)ของตัวละครหนึ่งตัวแอคชั่นที่เล่นไม่ใหญ่ มีไม่มาก แต่เพลินตา ผสานดนตรีประกอบอลังการด้วยความเป็นหนังที่เล่าเรื่องในยุค 80’s เพลงประกอบก็จะให้ความรู้สึกเป็นยุคนั้นมากๆ

ซึ่งเมื่อรับชมในรูปแบบ IMAX ภาพสีเสียงมันอลังการ แอคชันก็มีความเป็นหนังในยุค 80’s อยู่พอสมควร คราวนี้ไม่ได้เล่นใหญ่มากมายอะไรนัก มีฉากสนุกของเหตุการณ์ในวัยเด็กของไดอาน่าให้ดูเพลินๆ

ตอนเริ่ม แล้วก็มีฉากแอคชันมันๆ บนถนนกลางทะเลทราย นอกจากนั้นก็ไม่ได้ถือว่าใหญ่มากมายอะไรนัก โดยรวมแล้วก็ถือว่าสัดส่วนอยู่ในปริมาณที่น้อยกว่าภาคแรกไปนิดหน่อย และหันไปเน้นเล่าเรื่องดราม่าให้มากขึ้น ซึ่งก็คงเป็นไปตามจุดประสงค์ของผู้กำกับ/เขียนบทเพียงแต่บางช่วงก็อาจจะใช้เวลากับมันมากไปหน่อยจนอาจรู้สึกเนือย

จึงอาจจะไม่ถึงกับกลมกล่อมเมื่อเทียบกับภาคแรก ความรู้สึกชอบจึงไม่อาจมากเท่า แต่ไม่ได้เสียหายหนักข้อ หลายๆ จุดของหนังยังถือว่าทำได้ดีอยู่ดนตรีประกอบครั้งนี้เป็นผลงานของ ฮาน ซิมเมอร์ เจ้าของผลงานเอกอุอย่าง Gladiator, Inception, Dunkirk, Batman Begins และอีกมากมายในการทำดนตรีทำให้หนังมันดูอลังการ จนเกือบจะเกินหน้าตัวหนังไปเสียด้วยซ้ำ

รีวิวหนัง Wonder Woman 1984

จุดเด่น จุดดี จุดด้อย ของ วันเดอร์ วูแมน 1984

สำหรับคนที่ยืนยันว่าจะต้องไปดูหนังเรื่องนี้ให้ได้ คงไม่ได้สนใจนักว่า บทรีวิวจะชมจะอวยหรือติดชมด้านใด แต่เราจะบอกว่า หนังเรื่องนี้มีจุดเด่น จุดดี มากพอจะทำให้คุณต้องไม่พลาด นอกเหนือจากเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่หญิง

ก็ยังคงเล่าเรื่องหลายๆ ส่วนที่เกิดมาจากความรู้สึกของผู้หญิง อย่างเช่นการให้ตัวร้ายเป็นผู้ชายล้วนที่ก่อเหตุกับผู้หญิงและเด็ก เป็นต้นสิ่งที่เห็นได้ชัด ก็มันคือความสวยของตัวละคร พอดูที่ จอ คนดูอย่างแบบพวกเราๆ ก็ต้องอุทาน สุดจัดว่ะสวยจริง ตลอดเวลา ความหล่อเด๋อๆ ของสตีฟก็ทำให้รู้สึกว่า เออ เขาทำให้สองสิ่งมารวมอยู่ในคนๆเดียวได้วุ้ย

กัล กาด็อท เล่นบทดราม่าได้ดีทีเดียว เราสามารถน้ำตาไหลแทบสะอื้นให้กับนางได้โดยไม่ต้องเค้น นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ของพ่อลูกกับบทพูดในตอนท้ายนั้น จับใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เราที่ไม่ได้อินกับบทนี้ของ เพโดร ปาสคาล แต่กลับน้ำตาไหลได้ในฉากนั้น

ข้อมูลของหนังเรื่องนี้

นี่อาจเป็นสิ่งที่ แพ็ตตี้ เจนกิ๊น ถนัดและทำได้ดีก็เป็นได้แต่ก็ยังมีบางฉากที่รู้สึก ‘อิหยังวะ’ แทรกเข้ามาอยู่บ้าง บางฉากมันดูไม่น่าเชื่อสักเท่าไหร่แต่จำต้องใส่มาเพื่อเป็นจุดเปลี่ยนของฉากนั้นๆ
ได้ข่าวว่ามีฉากพิเศษเข้ามาในระหว่าง End Credit ด้วยนะครับ พอดีตอนดูรอบสื่อที่ IMAX รัชโยธิน มันไม่มี สงสัยต้องไปดูอีกรอบ!

ชื่อภาพยนตร์: Wonder Woman 1984 / วันเดอร์ วูแมน 1984
ผู้กำกับ: Patty Jenkins
ผู้เขียนบท: Dave Callaham, Geoff Johns, Patty Jenkins
นักแสดง: Pedro Pascal, Gal Gadot, Connie Nielsen, Robin Wright, Chris Pine, Kristen Wiig
ดนตรีประกอบ: Hans Zimmer
ความยาว: 151 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/-, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 17 ธันวาคม 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Atlas Entertainment, DC Comics, DC Entertainment,The Stone Quarry, Warner Bros.