รีวิวหนัง The Dark Tower หอคอยทมิฬ

เรามา ดูหนังฟรี หนังที่ทำมาจาก นวนิยายของ สตีเพน คิง ที่ชอบเอามาทำเป็นหนังฟอร์มยักษ์ในฮอลิวูดแต่ในทางด้านความสำเร็จแล้วมักจะโดนวิจารณ์มากกว่าและรายได้อาจจะไม่คุ้มทุนที่ลงแรงไป แต่ปีนี้ ผลงานของเขาก็ยังคงถูกหยิบมาสร้างและเข้าฉายในไทยอย่างน้อยก็สองเรื่อง

หนึ่งในนั้นคือ ‘The Dark Tower’ หรือในชื่อไทย ‘หอคอยทมิฬ ที่กำกับโดย นิโคลาส แอกเซล เป็นผู้เขียนบท มากมายอย่างเช่น ‘The Girl with the Dragon Tattoo’ (2009) เวอร์ชั่นสวีเดน ผู้กำกับฯ ‘A Royal Affair’ (2012) ที่คนไทยไม่อาจจะที่เห็นผลงานนี้ได้ และยังมีข่าวลือว่า กำกับ ผลงานเดียวกัน ที่ออกเป้นซีรียืในปีหน้าอีกด้วย

รีวิวหนัง The Dark Tower หอคอยทมิฬ

รีวิวหนัง The Dark Tower หอคอยทมิฬ เรื่องย่อ

ดูหนังออนไลน์  เรื่อง หอคอยทมิฬ หนุ่มน้อยนาม เจค เชมเบอร์ (ทอม เทเลอร์) ที่อาศัยอยู่กับแม่คนสวย (เคเธอรีน วินนิค) และพ่อเลี้ยง เขาน่าจะเป็นเด็กที่พ่อแม่ของเขามองว่าเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง เพราะความฝันที่เขามองเห็นอีกโลกหนึ่งจนเอามาวาดเป็นตุเป็นตะ

เหตุผลนั้นมันทำให้พ่อเลี้ยงอยากจะกำจัดหนูน้อย ไปพ้นๆทาง ที่นั่นมีหอคอยยักษ์สูงตระหง่าน มันเป็นหอคอยที่เป้นแกนหลังให้ทุกคนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และมี กันสลิงเกอร์ ที่เฝ้าคุ้มครองมาหลายรุ่น จนมาถึง โรแลนด์ (อิดริส เอลบา) อัศวินคนสุดท้ายที่อาคาดแค้นกับจอมทมิฬ (แมทธิว แม็คคอนาเฮย์)

พ่อมดในชุดดำที่ต้องการจะทำลายหอคอยและฮุบทุกโลกเข้ามาไว้ในการครอบครองของตนเองในที่สุด เจครับรู้ว่า เด็กคนนี้เขาเป็นที่ต้องการของจอมทมิฬและเด็กน้อยถูกลิขิตให้มีพลังที่จะทำลายหอคอยนี้ได้ มันก็เป็นอีกเหตุผลว่าเด็กคนนี้จะเลือกทำลายหรือจะป้องกัน หอคอย และก็ยังไม่มีใครเชื่อหนูน้อยคนนี้ว่ายังมีอีกโลกที่เหมือนกับโลกนี้

รีวิวหนัง The Dark Tower หอคอยทมิฬน่าดู

สตีเฟน คิงอาจจะโด่งดังเกี่ยวกับการเขียนเรื่องสยองขวัญจนส่วนมากผู้คนเลยคิดว่าเขาไม่มีงานเขียนเกี่ยวกับ แนวไซไฟ รีวิวหนังแฟนตาซี  หอคอยทมิฬ น่าดู ก็เป็นการเขียนของเขา เขาได้เขียนเรื่องนี้ ไว้ตั้งแต่ปี 1982และนี่เป็นการเอานิวยายมาทำเป็นหนังแนวคาวบอยสมัยใหม่

เมื่อดูหนังจบก็จะพบว่ามันมีความหนังสไตล์คาวบอยอยู่น้อยมาก ขณะที่ความเป็นแฟนตาซีและไซไฟนั้นมีส่วนอยู่ค่อนข้างสูงกว่ามากหนังหยิบให้ชายสองคนที่ต่างวัยแต่มีบางสิ่งเหมือนกันให้ต้องมาเดินทางข้ามภพไปด้วยกัน คนหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่เจ็บปวดจากการสูญเสียพ่อไป

กับอีกคนเป็นอัศวินปืนไวในอีกโลกหนึ่ง เขาก็สูญเสียผู้เป็นพ่อไปด้วยน้ำมือของชายในชุดดำตรงนี้ถือว่าบทเขียนออกมาได้น่าสนใจประมาณหนึ่งเลยทีเดียวมันมีสิ่งที่น่าคิดว่าหนังมันดำเนินไปเรื่อย จนเกินไป ไม่มีจังหวะจะโคนที่จะทำให้คนดูติดหนึบกับตัวละคร

รีวิวหนังแฟนตาซี น่าดู มันเป็นเรื่องราวไม่ได้เดินช้าหากแต่เดินด้วยจังหวะเดิมตลอดจนเริ่มจะทำให้ง่วงๆ ในบางช่วงบางตอนหนังไม่มีช่วงใดที่จะทำให้รู้สึกอินพอจะเอาใจช่วยตัวละครสักตัวนอกจากนั่งดูพวกเขาเดินทางไปมาระหว่างสองโลกเพลินๆ แง่มุมของตัวเอกที่มีต่อพ่อที่พวกเขาสูญเสียไป แทนที่จะได้ใช้ประโยชน์ให้คนดูได้อินบ้าง ก็ไม่ได้ถูกขับเน้น ปล่อยให้มันผ่านไปเสียเฉยๆ

อย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ดีมันเป็นหนังที่ไท่ทีอะไรซับซ้อน ทุกอย่างดูเข้าใจง่าย ผสมผสานไปกับการมีตัวละครเท่ๆ อย่าง ‘The Gunslinger’ ที่ อิดริส เอลบา รับบท เขาเล่นเป็นอัศวินที่ใช้ปืนได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นเหมือนคาวอบยเลยที่เดียว

มันมี ด้วยช็อตเท่ๆ คล้ายWantedทำให้หนังดูบันเทิงไปได้แบบเพลินๆอีกส่วนหนึ่งคือการมีนักแสดงที่ไม่เคยถูกโปรโมทว่าร่วมแสดงอย่างคลอเดีย คิม จึงเหมือนเป็นการโผล่มาเซอร์ไพรซ์แถมสะกดสายตาได้อยู่หมัด ด้วยความน่ารักของเธอ

ทำให้ตัวละครสาวสวยผู้มีฌานอย่าง อาร์รา ดึงความสนใจของผู้ชมอย่างแทบจะทันทีหนังแอคชั่นแฟนตาซีไซไฟผจญภัยแอบคาวบอยที่มีความยาวเพียง 95 นาที แม้ตัวเรื่องจะดูกระชับดี ทว่ามันดูสั้นไป แถมยังไม่มีอะไรให้จดจำ

รีวิวหนัง The Dark Tower หอคอยทมิฬ

รีวิวหนัง The Dark Tower หอคอยทมิฬ ข้อดี

หนังได้ทำตาม นิยายของพี่ สตีเฟน คิงเอามาก ๆถึงแท้ว่าจะไม่ได้เอามาทั้งหมดทุกบรรทัดแต่ทำได้เหมือนต้นฉบับ ซึ่งกับตัวเรื่องที่ทำเป็นหนังยากแบบนี้ก็ใช้ได้เลยล่ะครับดารานำแต่ละคนนี่เล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะไอดริส และเจ้าหนูทอม ช่วยให้เรื่องราวดูน่าติดตามขึ้นเยอะเลย

อันนี้ก็ต้องชมบทที่สร้างตัวละครได้มีมิติด้วยหนังเข้าใจง่าย เล่าเรื่องไม่น่าเบื่อ ลำดับเหตุการณ์ตรงไปตรงมาดูได้เพลินจนจบ ตัวประหลาดทำได้น่าสนใจดี ทั้งพวกที่ต้องสวมหน้ามนุษย์ สัตว์ประหลาดที่มาจากความมืด

หนังขยายจักรวาลด้วยอีสเตอร์เอ้กของนิยายเรื่องอื่น ๆ ได้แบบแฟนพันธุ์แท้จะสนุกมากในการคอยมองหาคำใบ้ต่าง ๆฉากแอ็คชั่นดุดัน เข้มข้นมันเป็นหนังสมัยเก่าที่แบบนัดเดียวจอด ชวนให้นึกถึงหนังยุคพวก 90 ต้น ๆ เลยหนังเท่มาก

ข้อเสียของหนังเรื่องนี้

หนังทำดีแล้วแต่ยังดีไม่พอในการชนะใจตลาดยุคปัจจุบัน ที่ควรต้องก้าวข้ามตัวนิยายไปให้ได้ไกลกว่านี้ ก็เพราะนิยายมันได้เขียนมานานมาก 40 ปีกว่าๆนะ พลอตไอเดียอะไรที่เคยล้ำ ๆ เท่ ๆ เอามาใช้ตอนนี้มันทั้งเกร่อทั้งเชยไปเสียแล้วซีจีพอได้ แต่ก็ยังไม่โดน

การทำหนังทั้งโปรดักทั้งการที่ทำหนังมันไปไม่ถึงแนวดาร์กแฟนตาซีเท่าที่ควร จักรวาลที่เล่าว่ามีมากมายก็มาให้เห็นแค่โลกเรากับโลกกลางเท่านั้นเอง ออกจะผิดหวังไปนิด ตรงนี้ล่ะมั้งที่แฟนคิงดูแล้วอาจจะรู้สึกแย่ๆ กับการสร้างภาพในจินตนาการได้ไม่ค่อยดีนักตัวร้ายอย่างวอลเตอร์

คิดว่าทำให้น่ากลัวให้เหี้ยมได้มากกว่านี้อีก ซึ่งน่าจะทำให้หนังดาร์คขึ้นด้วย (นี่ก็ดาร์คประมาณหนึ่งละนะ) อีกอย่างพลังของตัวร้ายเป็นพลังบังคับจิตใจคน มันเหมือนปิดฉาก ซีจีที่อลังการไปด้วย แล้วยังไม่เอาการสะกดจิตมาขยี้ให้ดราม่าหนัก ๆ อีก เลยกลายเป็นตัวร้ายที่เดินไปเดินมาไม่มีภาพให้จำเท่าไหร่รูปภาพที่เกี่ยวข้องแม้ตัวนำจะทำได้ดี

แต่ตัวอื่น ๆ ถือว่าใช้นักแสดงได้ไม่คุ้มเลย ที่เสียดายที่สุดคงเป็น แอ็บบี้ ลี ที่น่าจะสวยได้มากกว่านี้ และแจ็กกี้ เอิร์ล ฮาร์เลย์ ที่เคยรับบทเยี่ยม ๆ มาหลายเรื่องยกตัวอย่างเช่น รอส์แชช ใน Watchmenมาเล่นเป้นตัวประกอบอบ่างเสียของเลย หนังมีโดด ๆ หลุด ๆ เหตุผลบ้างนิดหน่อย แค่พอชวนให้สะดุดว่า

มาอยู่ที่นี่ได้ไง ไม่ถึงกับน่าเกลียดไไปนะ ฉากแอ็คชั่นแม้จะทำได้ดี ขาดความตื่นเต้น ความยิ่งใหญ่ อย่างที่บอกว่ามันโอลด์สคูลมาก เรามันเคยเห็นการยิงปืนแบบ John Wick หรือไม่ก็การใช้ปืนแบบ Wanted หรือ The Matrix มาแล้ว พอมาดูเรื่องนี้มันก็เออเคยเห้นมาละประมาณนี้ แต่ก็ดูได้นะไม่แย่

ข้อมูลของหนัง

สรุปแล้วก็คือ หนังมันมาช้าไปมาก เสียเวลาพัฒนาไปหลายสิบปี จนอะไร ๆ มันเก่ามันเชยไปแล้ว คือมาช้ามาหลังกาลมาก ถ้ามาเสียแต่ต้น ๆ แม้ซีจีจะยังไม่เนี้ยบ แต่เชื่อว่ามันจะเป็นหนังขึ้นหิ้งของคิงมากกว่านี้แน่ ๆ

ชื่อภาพยนตร์: The Dark Tower / หอคอยทมิฬ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Nikolaj Arcel
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Akiva Goldsman, Jeff Pinkner, Anders Thomas Jensen, Nikolaj Arcel
นักแสดงนำ: Idris Elba, Matthew McConaughey, Tom Taylor, Katheryn Winnick, Abbey Lee, Nicholas Hamilton, Claudia Kim
ดนตรีประกอบ: Junkie XL
ความยาว: 95 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy, Horror, Sci-Fi, Western
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
เรท: ไทย/น13+, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 10 สิงหาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Sony Pictures Entertainment (SPE), Media Rights Capital (MRC), Imagine Entertainment