รีวิวหนัง Warcraft The Beginning กำเนิดศึกสองพิภพ

และวันนี้จะพูดถึง ดูหนังฟรี เกมที่นานมาแล้วมาทำเป็นหนัง เริ่มเรื่องเลยว่า มีเกมตัวหนึ่งที่โดดเด่นและโด่งดังทำรายได้ระดับหมื่นล้าน มีคนเล่นเกมนี้ทั่วโลกเป็นเกมที่ดังระเบิดแต่ก็ น่าเสียดายที่เดียวที่มันถูกปล่อยมาเนิ่นนานกว่าจะเทคโนโลยีจะเพียงพอให้สร้างมันเป็นหนังที่ยิ่งใหญ่

และก็คงน่าเสียดายอีกเช่นกันที่คนบางคนไม่เคยได้เล่นเกมดังตัวนี้ มันเป็นเกมที่มีการแข่งขันที่ดุดันตอนนี้มันเป็นเกมที่มีเงินรางวัลสูงเป็นอันหนึ่งของโลกก็ว่าได้ วันนี้ มันได้มาถึงแล้ว เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าหนังก็สามารถทำได้เช่นกัน ดูหนังออนไลน์  หนังเรื่อง Warcraft: The Beginning ชื่อไทย กำเนิดศึกสองพิภพ

Warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ มันถือได้ว่าเป็นเกมที่บุกเบิกเกมแนวโมบ้าเลยก็ว่าได้เป็นต้นกำเนิดเกมสมัยนี้ก็ว่าไป สตอรี่หรือเรื่องราวก็ต่อเนื่องกันมาตามจำนวนของเวอร์ชั่น และมันก็มีมากเพียงพอที่จะทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังไตรภาคได้อย่างมิต้องสงสัย แต่ภาคแรกเป็นภาคที่สำคัญยิ่ง หากว่ามันประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นผลดีตามไปถึงภาคที่สองและสามต่อไป วันนี้ เราจะได้พิสูจน์ร่วมกันว่ามันจะเป็นไปได้ไหม

รีวิวหนัง Warcraft The Beginning

รีวิวหนัง Warcraft The Beginning เรื่องย่อหนัง

รีวิวหนังแฟนตาซี  ในโลกของออร์ค พวกมันพบว่าโลกของมันกำลังเลวร้ายลงจนไม่น่าอยู่เสียแล้ว จึงคิดจะหาโลกใหม่ ซึ่งพวกมันพบว่าโลกของเหล่ามนุษย์ยังอุดมสมบูรณ์ดีอยู่ จึงคิดหาทางไปยังโลกของมนุษย์ด้วยประตูมิติ

หนังเรื่อง Warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ พวกออร์คมีผู้นำสูงสุดอย่างกุลดาน (อู๋ เอี้ยนจู่) ที่มีพลังอำนาจ “เฟล” มันเป็นพลังที่ดูดวิญญาณของพวกสิ่งมีชีวิตเพื่อเอาไปเป็นพลังสร้างประตูที่วาปไปโลกอื่นได้ เพื่อที่จะป้อนพลังงานให้กับประตูเพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งมนุษย์ ซึ่งแน่นอน เหล่ามนุษย์มิได้เห็นดีเห็นงามด้วยแน่

จึงหาทางปกป้องโลกของตนเอาไว้ ภพฝั่งที่มนุษย์อาศัยอยู่นั้น มีพระราชา Llane Wrynn (โดมินิก คูเปอร์) มีแม่ทัพด้านการรบอย่าง อันดูอิน โลธาร์ (อันดูอิน โลธาร์) ชายหนุ่มร่างแกร่งที่เป็นพี่ชายของราชินี Ruth Negga (พอลล่า แพ็ทตัน) ซึ่งฟากฝั่งมนุษย์ก็มีผู้ควบคุม ‘เฟล’ ได้เช่นกันหนึ่งในนั้นคือ

หนุ่มหนวดวัยเยาว์ผู้ซึ่งยังไม่สำเร็จถึงขั้นเป็นผู้พิทักษ์อย่าง แคดการ์ (เบน ชเนทเซอร์)ที่กลายมาพัวพันธ์กับเหตุการณ์นี้อีกคน คือ เมดิฟต์ (เบน ฟอสเตอร์) ผู้พิทักษ์ที่ดูเหมือนจะพลังกำลังลดถอยลงไปด้วยเพราะเหตุบางอย่างที่ยังไม่ขอเปิดเผย

รีวิวหนัง Warcraft The Beginning กำเนิดศึกสองพิภพน่าดู

รีวิวหนังฮีโร่ น่าดู  หนังที่สร้างขึ้นจากเกมดังหลายๆ เรื่องมักจะสร้างเนื้อเรื่องขึ้นมาใหม่ถ้าเกิดว่าเกมดั้งเดิมไม่ได้มีเนื้อเรื่องอะไรมากนัก แต่สำหรับ ‘Warcraft’ ที่มันถูกสร้างมาหลายๆบทความหรือเรื่องต่างๆ มีสตอรี่เพียงพอ อีกครั้งยังมีตัวละครมากพอที่จะทำเป็นมหากาพย์ไตรภาคได้สบายๆ ที่เหลือก็อยู่ที่จะเลือกจะแบ่งเล่าเรื่องยังไงให้ลงตัว

โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นภาคปฐมบทที่จะต้องช่วยปูทางสร้างความสำเร็จขั้นแรก จุดประกายให้คนสนใจใคร่ติดต่อภาคสองภาคสามถัดไป งานหนักมันจึงอยู่ตรงนี้ซีจี 3 มิติสุดอลัง จุดเด่นอันแรกสุดเลย คือ หนังที่มีครึ่งหนึ่งเป็นออร์ค

พวกเขามีร่างกายใหญ่โต มีเขี้ยวงอกโผล่ออกมาพ้นริมฝีปาก แถมยังมีหลายเผ่าพันธุ์ ทั้งหมดต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อสร้างภาพการเคลื่อนไหวให้เหมือนจริง อีกทั้งภูมิทัศน์ต่างๆ แทบจะไม่เห็นสิ่งใดเป็นของจริงเลย

การพึ่งพาเทคโนโลยีและทีมสร้างงานภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากกับภาพยนตร์เรื่องนี้การถ่ายทอดงานภาพที่ออกมานั้นชัดเจนว่ามีความใกล้เคียงกับเกมที่คอเกมคุ้นเคยกันอยู่หากแต่ถ้าพิจารณาภาพอย่างละเอียด ก็จะพบว่า

บางจุดหรือบางช่วงของภาพบนจอ จะดูลอยๆ หรือเก็บจุดเล็กจุดน้อยไม่ครบถ้วน อาจพบเห็นได้เพียงเสี้ยววินาที เมื่อดูด้านงาน 3 มิติ ถือว่าสร้างโดยคำนึงถึงความเป็น 3 มิติได้ดีมาก พุ่งทะลุออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็นั่นแหละ บางส่วนของภาพก็ยังดูเพี้ยนๆ ลอยๆ ให้จับได้อยู่

รีวิวหนัง Warcraft The Beginning

รีวิวหนัง Warcraft The Beginning งานกำกับจากเจ้าของผลงานอย่าง ‘Moon’

ถือเป็นการกระโดดขึ้นมากำกับหนังฟอร์มยักษ์ของ ดัลแคน โจน (ผู้กำกับจาก ‘Moon’) เลยก็ว่าได้ เขาทั้งรับหน้าที่กำกับภาพยนตร์และเขียนบทเอง ซึ่งในส่วนการเขียนบทก็จะมี Charles Leavitt เข้ามาช่วยอีกแรงด้วยงานกำกับหนังฟอร์มใหญ่ถือไปได้ไม่เลวนัก

สำหรับคอเกมวอร์คราฟต์ที่เล่นมาทุกภาคคงเข้าใจเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อน อาจต้องพบว่าไม่สามารถต่อติดกับเรื่องราวได้ทั้งหมดด้วยเหตุผลหลายประการหนึ่ง คงเป็นที่ตัวละครในเรื่องนั้นค่อนข้างเยอะแยะ

มันมีทั้งชื่อ ทั้งเผ่าพันธุ์ ทั้งเมืองเล็กเมืองน้อยต่างๆ ซึ่งจะทำให้คนดูจำได้ยากเช่นกนัในเวลาอันน้อยนิด และเดินเรื่องอย่างรวดเร็วอีกหนึ่งคือการเล่าเริ่มเรื่องที่ไม่ครอบคลุมพอ เล่าเพียงคร่าวๆ แล้วไปต่อ

จนคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมาก่อนเป็นงงว่าตกลงเรื่องราวมันเป็นมายังไง โดยเฉพาะทางฝั่งมนุษย์ที่มีพระราชาผู้ที่เราไม่เห็นแง่มุมด้านลึกมากพอ และผู้พิทักษ์ที่เราไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องมีสระสีฟ้า ซึ่งหากมองโลกในแง่ดีก็คือ เขาอาจจะหยิบมาเล่าในภาคถัดๆไปหนังยังมีปัญหาด้านการตัดต่ออยู่บ้าง

เหมือนว่ามันจะเดินไปข้างหน้าด้วยกำลังช้างสาร มิสนจะรีรอผู้ใดที่ตามมาข้างหลัง หนังมันรีบนำเสนอเร็วไปไม่สารารถเข้าใจอารมของตัวละครได้ ไม่มีช่วงผ่อนแล้วมาเล่นซีนอารมณ์ให้คนดูได้อินเพื่อจะได้เอาใจช่วยพวกเขา

ความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับหนังเรื่องนี้

อธิบายสั้นๆมันเกิดเรื่องที่ดาว Draenor ดาวบ้านเกิดของเหล่าออร์คกำลังจะล่มสลาย เหล่าออร์คจึงต้องย้ายถิ่นฐาน จึงได้ใช้อาคม เฟล (คาถาที่นำวิญญาณของสิ่งมีชีวิตมาใช้ประโยชน์) เปิดประตูมิติเข้าไปยังดาว Azeroth เพื่อเข้ายึดดินแดน

แล้วก็ได้เข้าปะทะกับเหล่ามนุษย์จากเมือง Stormwind ซึ่งเป็นการจุดชนวนทำให้เกิดสงครามขนานใหญ่ระหว่างมนุษย์และออร์คขึ้นใครจะอยู่ ใครจะไป ใครจะชนะหรือแพ้ หรือจะมีใครตาย ก็อย่าลืม ลุ้น และติดตามชมกันได้ในภาพยนตร์หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้

จะเห็นได้ว่า ฉากดูอลังการงานสร้างมาก โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ของมนุษย์กับออร์ค ภาพกราฟิกดีสมกับที่ทาง Blizzard มาร่วมในเรื่องนี้ เหมือนเราเข้าไปติดอยู่ในโลกของ Warcraft เลย (รอบที่ได้ไปดูเป็นแบบ 3D ยิ่งช่วยให้ดูอลังการมากขึ้น)เท่าที่ได้ดู ตัวละคร ฉาก ปูมหลัง เนื้อหาของเรื่องนี้มีเยอะมาก

จนทำให้เนื้อเรื่องบางช่วงจะดูไหลไปเร็วจนตามไม่ทัน ใครที่จะไปดูเรื่องนี้ ควรศึกษาเนื้อเรื่อง หรือทำความเข้าใจที่มาของแต่ละตัวละครให้ดี หรือเนื้อหามาบ้างก็ดี เพื่อที่จะได้ดูเรื่องนี้ได้สนุก มีอรรถรส ดูแล้วเข้าใจในแต่ละฉาก แต่ละตัวละครว่ามีที่มา เป็นไปอย่างไรได้มากขึ้น แต่โดยรวมก็ถือว่าสนุก น่าติดตามดีครับ

ส่วนความเหมือนและความต่างระหว่างเนื้อเรื่องของเกมต้นฉบับกับหนังเรื่องนี้ ถือได้ว่ามีความใกล้เคียงกัน จะมีดัดแปลงเนื้อหาไปบ้างเพื่อทำให้เราสามารถดูแล้วเข้าใจได้ ดูแล้วสนุก แม้แต่คนที่ไม่ได้เล่นเกมนี้เลยก็ตามดังนั้นแล้ว

ใครที่ชอบแนวสงคราม ต่อสู้ ภาพอลังการ กราฟิกดี หรือใครที่ชื่นชอบเกม Warcraft ก็ควรไปดูกันได้ ถ้าเรื่องนี้ทำรายได้ดี คงจะได้เห็นภาพตัวละครเผ่าอื่นทำสงครามร่วมกัน นอกเหนือจากมนุษย์และออร์คแน่นอน รอติดตามกันได้

ข้อมูลของหนัง

หากพิจารณาด้านความสวยงามด้านงานภาพ ถือว่า ‘Warcraft: The Beginning’ ก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่มีปัญหาอยู่บ้างในการปูเรื่องไม่ลงลึกมากพอและการเล่าเรื่องที่เดินหน้าเร็วเกิน ไม่ทำให้อินกับตัวละครได้อย่างที่ควรจะเป็นแต่ก็ยังหวังว่า เราจะได้ดูจบครบทุกภาคอยู่ดี

ชื่อภาพยนตร์: Warcraft: The Beginning / Warcraft / กำเนิดศึกสองพิภพ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Duncan Jones
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Duncan Jones (screenplay), Charles Leavitt (screenplay), Chris Metzen (story and characters)
นักแสดงนำ: Travis Fimmel, Paula Patton, Ben Foster, Dominic Cooper, Toby Kebbell, Ben Schnetzer, Robert Kazinsky, Daniel Wu
ความยาว: 123 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/น13+, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 26 พฤษภาคม 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Atlas Entertainment, Legendary Pictures, Blizzard Entertainment, UIP