รีวิว น้องพี่ที่รัก

 

“เป็นน้องต้องยอมพี่ เป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง” ประโยคที่คนมีพี่-น้องมักจะได้ยินผู้ใหญ่รอบๆ ตัวบอกอยู่เสมอๆ ทำให้ในบางครั้งตัวเราเองกลับมีคำถามในใจว่า “เรารักกันหรือเปล่า?” หากคุณกำลังมีคำถามนี้ขึ้นมาในใจ “น้อง.พี่.ที่รัก” จากGHD จะพาทุกคนเข้าไปค้นหาคำตอบกันค่ะ

น้อง.พี่.ที่รัก เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก-คอมเมดี้-ดราม่า ร่วมเขียนบทและกำกับโดย วิทยา ทองอยู่ยง ผลิตโดยจอกว้างฟิล์ม และจัดจำหน่ายโดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ อุรัสยา เสปอร์บันด์ และนิชคุณ หรเวชกุล มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพี่น้องที่ไม่ถูกกัน โดยมีพี่ที่พยายามขัดขวางความรักของผู้เป็นน้องสาว ดูหนังฟรี 

 

รีวิว น้องพี่ที่รัก พล็อตเรื่อง

เรื่องราวว่าด้วยสายสัมพันธ์ของพี่น้องที่อาจจะรักกันแบบซึน ๆ หน่อย จนกลายเป็นทั้งความดราม่า และความตลกฮาไปพร้อมกัน เมื่อน้องสาวที่มีพี่ชายไม่เอาอ่าว และพยายามขัดขวางความรักของน้องสาวทุกทาง เธอจะต้องสู้เพื่อความรัก และเอาตัวปัญหาออกจากชีวิตให้ได้ ซึ่งในอีกทางคำว่าพี่น้องมันก็ตัดกันไม่ขาด แล้วจะลงเอยอย่างไร เพราะตัวพี่ก็แสบเสียเหลือเกิน ด้วยเนื้อหาที่เอาจริง ๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเหมาะเป็นหนังไหม หรือควรแค่ซีรีส์ แต่ด้วยฝีมือการเขียนบทของ GDH ก็สามารถหากิมมิกนู่นนี่มาเสริมเนื้อหา ให้มีแง่มุมมากขึ้นได้อย่างน่าสนใจ ดูหนังออนไลน์

เนื้อเรื่องของหนังเป็นการเล่าเรื่องของสองพี่น้อง ที่พระเอกหนุ่มซันนี่รับบทเป็นพี่ชื่อ “ชัช” และเป็นพระเอกของเรื่อง แต่น้องสาวจะเรียกชื่อของพี่เธอว่า “ข่อย” ซึ่งบทนางเอกหรือน้องสาวนั้น รับบทโดย ญาญ่า โดยในเรื่องเธอชื่อว่าเจน เมื่อตอนที่ “ชัช” อายุได้ 5 ขวบแม่ของเขากำลังคลอดน้อง เขาหวังเป็นอย่างมากที่จะได้น้องเป็นผู้ชาย เพื่อจะได้มีเพื่อนเล่น แต่เขาก็ต้องผิดหวังอย่างแรงเมื่อรู้ว่าน้องเป็นผู้หญิง เนื่องจากพ่อของ “ชัช” เสียแล้วเขาจึงต้องรับหน้าที่ดูแลน้องซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนของพ่อ แล้วก็ดูเหมือนเขาต้องตกกระป๋องทันที เมื่อทุกคนต่างให้ความสนใจกับน้อง และน้องก็เก่งกว่าเขาในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนการงานและความรับผิดชอบ ซึ่งก็ดูเหมือนว่า “ชัช” จะเป็นคนที่เรียกได้ว่าไม่ได้เรื่องได้ราวเท่าไรนัก มักจะสร้างปัญหาให้ “เจน” น้องสาวอยู่บ่อย ๆ และงานบ้านทุกอย่างเจนก็ต้องเป็นคนทำ ทำให้ความสัมพันธุ์ของพี่น้องคู่นี้ดูไม่ค่อยจะดีนัก จนเมื่อ “เจน” สอบได้ทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น 4 ปี ทำให้ “ชัช” ใช้ชีวิตอย่างอิสระและเหลวแหลกเป็นอย่างมาก

 

รีวิว น้องพี่ที่รัก
รีวิว น้องพี่ที่รัก

 

การที่ซันนี่เป็นผู้ชายคนเดียวในบ้านเพราะพ่อที่เป็นฝรั่งทิ้งไปตั้งแต่เด็ก ลุงที่เป็นเหมือนพ่อก็แปลงสภาพเป็นคุณป้า เขาต้องแบกรับความเป็นตัวแทนพ่อจนอาจเกิดความกดดันและหนีปัญหาเมื่อพบว่าตัวเองห่วยเกินกว่าจะเป็นผู้นำครอบครัวให้น้องภูมิใจ ด้วยการทำตัวเละเทะเกินเยียวยาให้ทุกคนสนใจแทนน้องสาวอย่างญาญ่าที่รู้ตัวอีกที พี่ที่เป็นโรลโมเดลตอนเด็กจนทำให้เธอสนใจความเป็นญี่ปุ่นทุกอย่าง ทั้งจากการ์ตูนที่พี่อ่าน เบสบอลที่พี่ชอบเล่น จนได้สอบชิงทุนไปญี่ปุ่นสำเร็จ แล้วก็พบว่าจริง ๆ พี่ชายคือตัวปัญหา ตัวภาระ ที่โยนทุกอย่างมาให้น้อยสาวอย่างเธอจัดการ แต่เธอแม้จะปากว่าหน้าร้ายกับพี่ แต่ลึก ๆ เธอก็ห่วงและพยายามช่วยพี่ชายทุกทาง รีวิวหนังคอมมาดี้

 

นิชคุณในบทหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นที่ตกหลุมรักญาญ่าแบบแทบจะทันที เขาพร้อมยอมแลกทั้งหน้าที่การงาน ทั้งชีวิตที่เหลือหากต้องทิ้งญี่ปุ่นมาอยู่ไทย และเงินสินสอดที่พี่ชายจอมป่วนพยายามสร้างกำแพงขวางไว้ เขาคือความมุ่งมั่นความรักของผู้ชายอบอุ่นในแบบที่ซันนี่ให้ไม่ได้กับครอบครัวนี้ แต่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ หนังไม่ได้ใช้โมเม้นท์ใดมาขยายเพิ่มมิติทางตัวละครได้คมคายพอ ทั้งเรื่องปมในตัวซันนี่ ที่สุดท้ายก็มาแค่คำพูดว่า จริง ๆ รักน้องสาวแต่เกลียดความห่วยของตัวเอง ซึ่งจนแล้วจนรอดจนจบหนังเราก็ไม่ได้เห็นความพยายามในการเป็นฝ่ายให้น้องสาวใด ๆ เลย ไม่มีมุมแบบที่รู้สึกเลยว่าคนเป็นพี่ชายเป็น

เพราะความรักที่ไม่มีการกระทำมายืนยัน มีแค่คำพูด มันก็ถือว่าไม่ได้รักนั่นล่ะ

กิมมิกย่อย ๆ ที่ปกติทำงานได้ดีกับบทหนังค่ายนี้ที่ชอบทิ้งไว้แล้วเอามาตีหน้าคนดูตอนท้ายให้จุกซึ้งได้ประจำ กับเรื่องนี้กลายเป็นว่าพยายามเข้ามาเพื่อสร้างมุกแต่ไม่มีผลอะไรเลย ทั้งนกฮูกที่ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษ นอกจากตั้งใจเอามาสร้างความแปลกใจ ซึ่งจริง ๆ ในแง่เนื้อหาหน้าที่การต้องมีอยู่ของมันจะเป็นหมา แมว เสือดำ ก็ไม่ต่างกันเลย  รีวิวหนังไซไฟ

 

ฉายาของซันนี่อย่าง พี่ขอย ที่มันต้องมีอะไรแน่ ๆ เรารอความหมายที่แท้จริงของมันมาตลอดว่ามันต้องกระแทกเราแน่ ๆ ในตอนเฉลยแบบที่หนังค่ายนี้ชอบวางกลไว้กับคนดู แต่แล้วเอาเข้าจริงฉายามันกลับไม่มีอะไรเลย ความหมายคือคำเหยียดหยันที่มาจากน้องที่บอกว่ารักพี่คนนั้นด้วยซ้ำ แถมไม่มีแง่มุมความสำนึกผิดที่น้องสาวทำให้ทุกคนเรียกพี่แบบนี้มาจนโตแม้แต่นิดเดียว มันไม่ได้มีแง่มุมของความรักซ่อนอยู่ในชื่อฉายานี้แต่อย่างใดเลยจริง ๆ (สรุปรักกันหรือเปล่าเริ่มไม่แน่ใจ?)

คำถามพวกนี้ยังตามราวีไปถึงต้นถึงกลางเรื่อง เมื่อพี่น้องเริ่มกลั่นแกล้งกันรุนแรง ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ จนเกินเลยลิมิตชีวิตปกติที่พี่น้องที่ยังรักกันจะแกล้งกัน เพราะมันลากไปถึงขนาดทำลายอาชีพการงานกันได้ คือมันถูกใส่เพื่อพัฒนาสถานการณ์เพื่อสร้างมุกล้วน ๆ ซึ่งมันตลกจริง ๆ ล่ะ แต่มันทำลายความน่าเชื่อถือของหนังที่พยายามจะไปดราม่าตอนท้าย เพราะเราไม่รู้สึกอะไรเลยจริง ๆ ว่ามันแอบมีมุมรักกันอยู่ ถ้าบอกว่าเกลียดกันจนมีฝ่ายหนึ่งตายแล้วคนที่เหลือถึงสำนึกมันยังดูมีแง่มุมให้เข้าใจมากกว่าแต่สุดท้ายก็เข้าใจกัน จนมาถึงซีนที่ดราม่าสุด ๆ คือ ฉากแต่งงานของ “เจน” กับ “โมจิ” ที่ “ชัช” ผู้เป็นพี่ชายไม่ได้มาร่วมงานด้วย และได้มีการอ่านจดหมายถึงครอบครัวที่เป็นธรรมเนียมของญี่ปุ่น ฉากนี้ถือว่าเป็นฉากเรียกน้ำตาเลยทีเดียว และซีนเรียกน้ำตาอีกซีนคือฉากที่ “เจน” มาลูกมาเยี่ยมแม่แล้วได้เจอกับ “ชัช” ฉากนี้นักแสดงถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีจนทำเอาน้ำตาไหลตาม แต่สุดท้ายตอนจบของเรื่อง สองพี่น้องก็ได้มีฉากแสดงความรักความเข้าใจให้คนดูได้รู้สึกอบอุ่นได้ดีทีเดียว

 

รีวิว น้องพี่ที่รัก
รีวิว น้องพี่ที่รัก

 

หนังเรื่องนี้เป็นการกลับมาท้าทายตลาดครั้งที่ 3 แบบงานเดี่ยว สำหรับ บอล – วิทยา ทองอยู่ยง ผู้กำกับที่มุ่งมั่นกับสายตลกนำ ที่คงมีอยู่ไม่กี่คนในค่าย GDH ที่จะมุ่งทางชัดขนาดนี้ ทั้งจาก เก๋า..เก๋า (2549) และ บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) ครั้งนี้ไม่มี .. ในชื่อหนัง แต่ใช้ . เดี่ยวคั่นแทน ก็จะนับว่าเป็นลายเซ็นของบอลอย่างหนึ่งได้แล้วมั้งกับเรื่องการมี . ในชื่อหนัง และครั้งนี้มีถึง 3 . เลยด้วย นั่นเลยหวังได้ว่ามันคงมีอะไรมัน ๆ ขึ้น (ฮา) คือส่วนตัวเลยยอมรับว่าชอบงานที่ไม่สมบูรณ์แบบของเขานะ มันมีความสดและความดิบใน เก๋า..เก๋า พอสำเร็จระดับหนึ่งเขาก็ลองเพิ่มความละมุนลงไปใน บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน แต่ก็ยังไม่ทิ้งเรื่อง “ตลก” ที่เป็นสิ่งที่เขาสนใจไป และแม้ตลาดอาจไม่ได้ตอบรับหนังของบอลในระดับยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับงานเรื่องดังของค่าย แต่ก็ต้องบอกว่า บอล มีแฟนคลับของเขาที่เข้มข้นพอสมควรทีเดียว และน่าชื่นชมที่เขาไม่พยายามเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ใช่ เรื่องนี้เขาได้องค์ประกอบนักแสดงที่เด็ดดวงยิ่งกว่าครั้ง เก๋า..เก๋า ที่ตอนนั้นก็นับว่าเด็ดจนไม่น่าจะทำได้ในยุคนี้อีกแล้ว เพราะรอบนี้ได้ดาราเบอร์ต้นของประเทศมาแสดงนำถึง 3 คนเลย (ซึ่งทั้งเรื่องก็เหมือนจะเน้นแค่นี้จริง ๆ) คือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (ในบท ชัช พี่ชายจอมป่วนหวงน้องสาว) ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ (ในบท เจน น้องสาวสุดเพอร์เฟกต์) และแม่เหล็กอันดับหนึ่งแห่งวงการติ่งเกาหลีไทย คุณ – นิชคุณ หรเวชกุล (ในบท โมจิ หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นสุดคิ้วท์)

 

GDH ทวงคืนตำแหน่งเจ้าแห่งหนัง Feel Good
ในยุคสมัยของ GTH (สะกดไม่ผิดหรอก) ชื่อนี้ถือว่าเป็นการันตีได้ว่า หนังดี อารมณ์ดี เดินออกจากโรงมามีรอยยิ้มแน่นอน เมื่อถึงยุคเปลี่ยนผ่านจาก GTH สู่ GDH ทำให้เราห่างหายจากหนัง feel good ไปนานพอควร ในวันนี้ บอล วิทยา ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานไว้ใน “บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)” กลับมาทวงคืนความ feel good ให้กลับมาสู่GDHอีกครั้ง ด้วยผลงานแนวครอบครัวที่เค้าถนัด และที่สำคัญเค้าทำได้ในมาตรฐานที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว มีสอดแทรกมุกตลกให้เรายิ้มได้เรื่อยๆ เรียกได้ว่า บรรยากาศเก่าๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีได้กลับมาอีกครั้ง

 

รีวิว น้องพี่ที่รัก ความรู้สึกหลังดู

คือมองว่าเลือกทางตลกผิดจริง ๆ ในหนังเรื่องนี้ ตลกคาเฟ่อุ่น ๆ ดราม่าอย่างใน บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อนฯ หรือจะบ้าให้สุดอย่างใน เก๋า..เก๋า ยังเนียนกว่า คือต้องเลือกสักอย่าง
แต่พูดไปขนาดนั้นใช่ว่าหนังจะไม่น่าดูนะคะ เพราะเอาจริง ๆ คือหนังมีมาตรฐานสูงตามสไตล์ GDH มีดาราที่ทรงพลัง การแสดงที่ไม่ได้บทส่งแต่ก็ยังเอาอยู่ โดยเฉพาะฉากดราม่าหลังตักบาตรช่วงท้ายหนังคือสิ่งยืนยันที่เชื่อว่าทุกคนถูกสั่นสะเทือนหัวใจด้วยพลังการแสดงของจริง – น่าเสียดายที่เรารู้สึกกับหนังจริง ๆ แค่ฉากนี้ในส่วนดราม่า ซันนี่ ญาญ่า นิชคุณ คือสิ่งที่ลงตัวมาก ๆ มีเสน่ห์มาก ๆ แม้คนที่จะน่าจดจำจริง ๆ มีแค่ซันนี่ก็ตาม แต่ต้องบอกเลยว่าทีมดาราสมควรได้รับการชื่นชมทุกคนค่ะและสำหรับคนที่แสวงหาความบันเทิงมุกตลกของมันก็ทำงานได้เยอะ ได้เพลิน เป็นอีกหนังที่ดูเพื่อผ่อนคลายได้ดีมาก ๆ
โดยรวมแล้ว “น้อง.พี่.ที่รัก” จัดว่าเป็นหนังที่ดีค่ะ แต่ขอหักคะแนนนิดหน่อยตรงความเพลย์เซฟของเนื้อเรื่อง แอบคิดนิดนึงว่าหนังน่าจะไปได้สุดกว่านี้ แต่เท่านี้ก็ถือว่าดีมากๆ แล้วค่ะ หนังพูดถึงเรื่องของความรักในครอบครัว สายสัมพันธ์ของพี่น้อง สำหรับคนมีพี่น้องเราเชื่อว่าน่าจะโดนใจอย่างแรงในหลายๆ จุด สำหรับลูกคนเดียวก็จะได้ทบทวนตัวเองในเรื่องความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว หากคุณเป็นคนนึงที่มีคำถามในใจว่า ความรักที่มีนั้นมันหล่นหายไปไหน? เรายังรักกันอยู่ไหม? หนังเรื่องนี้มีคำตอบให้ค่ะ

 

หนังเล่าถึงเรื่องราวความรักความผูกพันของครอบครัว ที่ไม่ว่าผู้เป็นพี่จะทำแสดงออกต่อน้องไม่ดีใช่ช่วงต้นเรื่อง แต่ด้วยสายสัมพันธ์ของพี่น้อง สุดท้ายก็เข้าใจกันและมอบสิ่งดีให้แก่กัน
ในหนังก็แสดงให้ถึงวุฒิภาวะของพระเอกที่ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่ดูเหมือนไม่เอาไหน แต่แท้ที่จริงแล้วก็เป็นห่วงน้อง จึงไม่อยากให้น้องรีบตัดสินใจแต่งงาน เพราะพึ่งรู้จักกับแฟนเพียงไม่กี่เดือน นั่นก็เพราะที่จริงแล้วเขาก็มีเหตุผลและวิเคราะห์ว่าควรแนะนำน้องให้เข้าใจ และค่อย ๆ พิจารณาอย่างถูกต้อง
หนังสื่อให้คนรู้จักเคารพการตัดสินใจของคนอื่น และรับฟังเหตุผลของกันและกัน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ซึ่งเมื่อพระเอกยอมรับการตัดสินใจของน้องสาว เขาก็พยายามทำให้น้องสาวมีความสุขด้วยการไปขอโทษแม่ของ “โมจิ” และทำให้น้องสาวได้แต่งงาน
กรอบเนื้อหาในหนังชี้ให้เห็นว่าสถานบันครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่กำหนดพฤติกรรมของแต่ละคน พระเอกนั้นผิดหวังที่ไม่ได้น้องชาย ไม่มีพ่อ ลุงก็เป็นกระเทย อีกทั้งยังคิดว่าตัวเองด้อยกว่าน้องสาว จึงทำให้มีพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะเก็บกด และเอาแต่ใจ ผิดกับน้องสาวที่ได้รับการสนับสนุนและคำชมในทุก ๆ ด้านจนทำให้เห็นถึงความประความสำเร็จและสมบูรณ์แบบที่เหนือกว่าพี่ชาย
หนังแฝงด้วยปรัชญาที่ว่า “ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เกิดการการทำสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อตัวเองและผู้อื่น” นั่นก็คือการเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องและเสียสละเพื่อคนที่เรารัก อันเป็นการักษาไว้ซึ่งความรู้สึกของคนในครอบครัวและคนรอบข้าง