รีวิว Yaksha

อีกหนึ่งเรื่องจากทางฝั่งเกาหลีที่ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยกับ Yaksha หนังแนวสายลับเอเชียที่มีผู้กำกับอย่างคุณ นาฮยอน เจ้าของผลงานเรื่อง The Prison ในปี 2017 หนังแอ็กชันเนื้อเรื่องสะใจที่ท่านผู้ชมอาจผ่านตากันมาบ้าง หรือแม้แต่หนังแนวดราม่าอย่าง Inseparable Bros หรือ Summer Snow ผู้กำกับคนนี้ก็ถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจทั้งนั้น แต่สำหรับ Yaksha เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องแรกใน Netflix Original ของคุณ นาฮยอน มันเลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความคาดหวังว่าจะทำออกมาสนุกแค่ไหนกัน? รีวิวหนังแอ็คชั่น

รีวิว Yaksha พล็อตเรื่อง

Yaksha จะเล่าเกี่ยวกับอัยการกรุงโซลที่ชื่อว่า ฮันจีฮุน เจ้าตัวถูกส่งไปทำภารกิจเป็นสายลับในเมืองเสิ่นหยาง เมืองที่เป็นที่ตั้งของสถานกงสุลประเทศต่างๆเต็มไปด้วยสายลับทั้ง จีน เกาหลีเหนือ รัสเซีย ญี่ปุ่น และการมาเมืองเสิ่นหยางครั้งนี้ ฮันจีฮุน

 

เขาต้องร่วมมือกับ คังอิน หัวหน้าทีมสายลับ NIS ที่จะมาช่วยตามหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีเหนือที่หายตัวไปพร้อมกับข้อมูลลับระดับประเทศ และเรื่องราวทั้งหมดนี้มันจะเปลี่ยนมุมมองการทำงานของอัยการหนุ่ม ฮันจีฮุน ไปอย่างสิ้นเชิง หนังเปิดเรื่องด้วยการปูพื้นให้ผู้ชมรู้จัก 2 ตัวละครหลัก เริ่มจาก จีคังอิน ตำรวจจอมโหด จนได้ฉายาว่า ยักษ์

 

ที่กลายมาเป็นชื่อเรื่อง Yaksha นี่แหละ ในหนังอธิบายว่าชื่อนี้มาจากภาษาสันสกฤต แต่ในที่นี้ไม่ได้อิงถึงขนาดร่างกายที่ใหญ่โต แต่อิงจากความโหดเหี้ยมอำมหิต เราได้เห็น จีคังอินตามล่าผู้ต้องสงสัยไปตามท้องถนน ก่อนจะระเบิดกระสุนใส่สมองคู่กรณี

 

นับเป็นการเปิดตัวพระเอกของเรื่องแบบที่เรียกร้องความสนใจผู้ชมได้ดี และเป็นการเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ โดยที่ยังไม่มีคำอธิบายใด ๆ ถึงที่มาที่ไปของการไล่ล่านี่ หนังก็ตัดมาแนะนำอีกตัวละครนำ ฮันจีฮุน อัยการฝีมือดี ที่กำลังทำคดีใหญ่เอาผิดนักธุรกิจรายใหญ่ แต่มาเสียฟอร์มเพราะลูกน้องในทีมทำผิดกฏระเบียบระหว่างสืบสวน ทำให้ต้องแพ้คดี และโดนย้ายไปอยู่หน่วยเล็ก ๆ ชานเมือง

 

แต่ไม่นานนักโอกาสก็กลับมาหา อัยการฮันเขาเสนอตัวรับงานเสี่ยงภัย ที่ต้องเดินทางไปเมืองเสิ่นหยางประเทศจีน เพราะที่นั่นมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษ แบล็ก ที่ดูเหมือนจะมีลับลมคมในแอบแฝงไม่รายงานการปฏิบัติงานตามที่เป็นจริง และเมื่ออัยการฮันไปถึงเสิ่นหยาง รีวิวซีรี่ย์

 

เขาก็ได้พบกับ ‘ยักษ์’ หรือจีคังอิน ที่เป็นหัวหน้าหน่วยแบล็กนี้เอง นับเป็นการปูพื้น 2 ตัวละครนำที่กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแรกของหนัง จากนั้นหนังก็เดินหน้าเร็วขึ้น ด้วยการแนะนำตัวละครอีกมากมาย ทั้ง 3 ลูกน้องฝีมือดีประจำหน่วยแบล็ก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ จินยอง จาก Got 7 ที่ใส่เข้ามาเรียกกลุ่มผู้ชมที่เป็นแฟนคลับได้ และ โยชิโนบุ โอซาวะ

 

หัวหน้าหน่วยราชการลับจากญี่ปุ่น ในฐานะตัวร้ายของเรื่อง ที่มีความแค้นอันยาวนานกับจีคังอิน ส่วนปฏิบัติการในเสิ่นหยางนี้ จีคังอินสืบรู้ว่า โอซาวะจับตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือไป เพราะต้องการเอกสารลับสำคัญบางอย่าง จีคังอินและทีมจึงพยายามชิงตัวเจ้าหน้าที่ผู้นี้และสืบให้รู้ได้ว่าเอกสารสำคัญนั้นคืออะไร ดูหนังฟรี

รีวิวyaksha
รีวิว Yaksha

นับตั้งแต่หนังเปิดตัวโอซาวะ ตัวร้ายของเรื่อง หนังก็เข้าสู่โหมดแอ็กชันแบบเต็มตัว ใส่ฉากแอ็กชันเข้ามาถี่ยิบ และมีให้ครบทั้งขับรถไล่ล่า สาดกระสุน ระเบิดตู้มต้าม ไปจนถึงการต่อสู้ด้วยมีดและมือเปล่า ก็ทำให้เชื่อได้ละครับว่าหนังน่าจะใช้ทุนสร้างสูงจริงตามที่โฆษณาไว้ ควบคู่ไปกับปริศนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่าเอกสารลับที่โอซาวะตามล่าอยู่นั้นคืออะไร ซึ่งเมื่อเผยออกมาก็ไม่ได้ชวนว้าวแต่อย่างใด ยังคงอยู่ในกรอบหนังสายลับที่เราผ่านตากันบ่อย ๆ รีวิวซีรีย์

 

ฉากแอ็กชันของ Yaksha ถือได้ว่าเป็นจุดขายของหนัง แต่ขณะเดียวกันก็ค่อนข้างเป็นจุดอ่อนของหนังไปด้วยคราเดียวกัน นั่นก็เพราะหนังอัดฉากแอ็กชันมาให้ค่อนข้างถี่ ทั้งฉากเล็กฉากใหญ่ แต่ก็ไม่มีฉากที่ชวนตื่นตา ฝ่ายพระเอกไม่ได้พลาดท่าเสียทีให้ชวนลุ้น

 

ทั้งตัวจีคังอินและลูกทีมล้วนใส่พระดีมากันทั้งนั้น ฝ่ายตรงข้ามสาดกระสุนมาเท่าไหร่ก็ไม่โดนสักนัด เมื่อเข้าสู่ฉากต่อสู้ ฝายพระเอกก็เลยไม่น่าเป็นห่วงเท่าใดนัก ซึ่งก็รวมไปถึงฉากไคลแมกซ์ของหนัง ที่สร้างบรรยากาศรอบข้างเล่นใหญ่ตู้มต้ามแต่ไม่ได้รู้สึกว่าลุ้นตามไปด้วยเลย

 

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของ “นาฮยอน” นักเขียนบทมือดีจากหนังดัง ๆ ของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น The Prison และ May 18 และแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นแนวถนัดของเขาไม่เบา เพราะเคยมีประสบการณ์ในการปลุกปั้นทำบทหนังแนวแก๊งสเตอร์มาก่อน

 

ที่มาคราวนี้เป็นการใส่องค์ประกอบของวังวนอิทธิพลใต้ดินที่เชื่อมโยงในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเลยทีเดียว และแน่นอนว่าสเกลของหนังเรื่องนี้ยิ่งใหญ่ไม่เบาเลยทีเดียว

รีวิว Yaksha
รีวิว Yaksha

รีวิว Yaksha ความรู้สึกหลังดู

แต่กระนั้นก็เป็นที่น่าเสียดายที่ Yaksha: Ruthless Operations ก็ยังคงเป็นเพียงหนังแอคชั่นสายลับที่แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่เลย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาและองค์ประกอบต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เคยเห็นมาจากหนังหลายเรื่อง ไม่ว่าจะหนังเกาหลีเอง

 

หรือจะเป็นหนังฮอลลิวูด กลายเป็นการใช้สูตรสำเร็จตายตัวที่ทำให้ 2 ชั่วโมงของหนัง ก็เป็นได้แค่เพียงหนังแอคชั่นปฏิบัติการที่ดำเนินเรื่องไปตามบทที่พยายามเข้มข้นเอาเรื่องดูหนังออนไลน์

 

แม้ว่าประเด็นของหนังจะค่อนข้างน่าสนใจ แต่การนำเสนอแบบสูตรสำเร็จกลับทำให้หนังออกรสชาติที่จืดชืดไปสักหน่อย ลูกเล่นอะไรต่าง ๆ ค่อนข้างดูเชย องศาการหักมุมในหนังก็ไม่ใช่อะไรที่คาดเดาได้ยากเลยสักนิด ทุกอย่างดำเนินตามไปแบบสูตรเดิม ๆ

 

ของหนังแนวแก๊งสเตอร์ ที่ชวนให้นึกย้อนไปถึงหนังฮ่องกง เมื่อ 10-20 ปีที่แล้วอะไรประมาณนั้น

 

ในเวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ ผู้เขียนเองรู้สึกว่า Yaksha มันเต็มไปด้วยความหลากหลายของรสชาติ

 

ที่มันมีทั้งแอ็กชัน มีดราม่า หรือความเป็นสืบสวนสอบสวน ที่ค่อนข้างกลมกล่อมเลย อีกทั้งพลังนักแสดงเบอร์ใหญ่อย่างคุณ พัคแฮซู ที่เคยมีผลงานดังกับซีรีส์ Squid Game

 

 

หรือดาราเจ้าบทบาทอย่างคุณ โซล คยอง กู ที่ใครหลายคนคงจำแกได้ใน Memoir of a Murderer หรือแม้แต่ลูกทีมอย่างคุณ อีเอ ที่จำเธอได้ในซีรีส์เรื่อง Goblin อีกคนหนึ่งกับคุณ จินยอง ที่สาวๆคุ้นหน้าเป็นอย่างดีเพราะเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเคป็อปอย่าง Got 7 ที่เห็นได้ชัดว่าการเลือกแคสติ้งดีก็ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งเพราะแค่หน้าปกมันก็เกิดความเชื้อเชิญคนดูให้กดเข้ามาดูหนังแล้ว

 

ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณทีมนักแสดงของเรื่องนี้ ที่ได้เบอร์ใหญ่เบอร์โตมาช่วยพยุุงเอาไว้ได้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็น “ซอลคยองกู” และ “พัคแฮซู” ที่บทบาทอาจจะไม่ใช่บทที่แปลกใหม่อะไรของพวกเขาเลย เธอทักษะการเป็นแอคชั่นสตาร์ที่สั่งสมประสบการณ์มาหลายสิบปีของพวกเขา

 

เป็นส่วนผสมที่ลงตัวและสามารถช่วยประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ไปให้ตลอดลอดฝั่เรื่องนี้ ผู้ชมจะได้ดู พัคแฮซู ที่ผ่อนคลายขึ้นนิดหน่อย เมื่อเทียบกับ Squid Game จากอัยการที่แข็งเป็นหิน ตรงเป็นไม้บรรทัด เขาค่อยๆต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์

 

เมื่อตัวละครเขาได้เจอความท้าทาย เจอสถานการณ์คับขัน ก็ได้เห็นอีกมุมออกมา ในขณะเดียวกันตัวละครหัวหน้าทีมหน่วยลับของ โซลคยองกู จากดูเป็นคนนอกคอก แข็งกร้าว หนังก็จะค่อยๆเผยให้เห็นมุมอ่อนไหว มุมความเข้าใจมนุษย์มากขึ้น นอกจากพล็อตที่เข้มข้นและน่าติดตามแล้ว พัฒนาการความสัมพันธ์ของสองตัวละครนี้ ก็เป็นหัวใจสำคัญของหนังจริงๆ

 

อาจจะเป็นที่น่าเสียดายนิดหน่อยที่ตัวละครอื่น ๆ ของ “อีแอล”, “จียอง” หรือ “ซงแจริม” ใส่เข้ามาไม่ต่างอะไรกับตัวประกอบที่ไม่ได้ให้น้ำหนักอะไรมากนัก ทั้งนี้ศักยภาพของพวกเขามีมากกว่านั้นมาก แต่กระนั้นโดยภาพรวมก็ถือว่า Yaksha: Ruthless Operations

 

ก็มีพลังนักแสดงดรีมทีมชุดนี้นั้น คอยช่วยพยุงภาพรวมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าองค์ประกอบอื่นจะค่อนข้างน่าผิดหวังสักหน่อยก็ตาม

เอาเป็นว่าในภาพรวมแล้วนั้น Yaksha: Ruthless Operations นับว่าเป็นหนังแอคชั่นสายลับที่พอดูได้เพลิน ๆ แต่ยังไร้ซึ่งองค์ประกอบที่น่าประทับใจ อาจจะรู้สึกผิดหวังไปสักหน่อย เพราะหนังดำเนินและเล่าเรื่องไปในลักษณะที่ค่อนข้างเรื่อยเปื่อย และใส่ความจัดจ้านที่น้อยกว่าที่คาดเอาไว้

 

แม้จะยังมีความเท่และความคลูประปรายแต่แบบฉบับหนังเกาหลี แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า สูตรสำเร็จเดิม ๆ ที่หนังนำมาใช้ครั้งนี้ เกือบจะไม่เวิร์กเสียแล้ว

 

Yaksha เรื่องนี้ ถือได้ว่าเป็นหนังแอ็กชันอีกหนึ่งเรื่องที่ดูเพลินๆอยู่ในมาตรฐานที่ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ความกล้าของผู้กำกับที่เอาเรื่องละเอียดอ่อนระหว่างประเทศมาตีความเป็นหนังสายลับที่มีกลิ่นอายความเป็น มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล หน่อยๆตรงนี้เป็นหนึ่งไอเดียที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบเลย

 

ถึงแม้จะมีจุดขัดใจบ้างกับฉากแอ็กชันที่มาในเรทพีจี 16 หรือช่วงท้ายของหนังที่ไม่ได้ impact คนดูมากนัก แต่มันก็ยังพอถูไถไปได้ถ้าเกิดท่านผู้ชมไม่ได้คาดหวังกับหนังมาก เน้นเสพแอ็กชันมันส์ๆเพียงอย่างเดียว รีวิวหนังจีน