รีวิว Dawn of the planet of the apes รุ่งอรุณแห่งพิภพวานร

ดูหนังฟรี สำหรับหนังเรื่องนี้นั้น เป็นหนังแนว Sci-fi ซึ่งหนังในซีรีย์ทั้งหมด ที่ทำมาตั้งแต่ปี 1968 ก็มีหลายภาคด้วยกัน บางภาคก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมาก แต่ภาคที่ออกมาในปี 2001 นั้นเป็นหนัง Sci-fi เช่นกัน(ซีรีย์นี้ Sci-fi ทั้งหมด)เพียงแต่ว่า ภาคนี้ที่มันไม่ได้เห็นความเป็น Sci-fi อย่างชัดเจนเนื่องจากว่า

มันเป็นภาคที่เล่าย้อนอดีต ว่าลิงมาครองโลกแทนคนได้อย่างไรแต่หนังในเครือของซีรีย์นี้ที่ประสบผลสำเร็จมากสุดคือภาค Planet of the apes(2001) และ Rise of the planet of the apes ที่ถือว่าทำออกมาได้ดีผลตอบรับก็ดีด้วย โดยภาค Rise มีผู้กำกับฝีมือดีอย่าง รูเพิร์ท ไวแอทท์

และจริงๆเขาต้องเป็นผู้กำกับภาคนี้ด้วย แต่เขาได้ถอนตัวออกจากทีมไปเหตุผลคือทำหนังเรื่องนี้ไม่น่าจะเสร็จทันในปี 2014 จึงมีการเปลี่ยนผู้กำกับเป็นแมทท์ รีฟส์ (ผู้กำกับ เรื่อง cloverfield) และมีการเขียนบทภาพยนตร์ ดูหนังออนไลน์ น่าดูน่าติดตามได้ที่นี่

โดยมาร์ค บอมแบ็คเป็นการเขียนรีไรท์ใหม่ ให้กับผู้กำกับคนใหม่โดยกำหนดการได้เลื่อนไปฉายในเดือนกรกฏาคม2014 วันที่ 18 และมีการเลื่อนวันฉายจริงขึ้นอีกสัปดาห์หนึ่ง ก็คือกลายเป็นฉายพร้อมกันวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา

รีวิว Dawn of the planet of the apes รุ่งอรุณแห่งพิภพวานร

รีวิว Dawn of the planet of the apes หนังไซไฟน่าดู

รีวิวหนังไซไฟ  คืออยากจะบอกว่าผมยังไม่ได้ดูภาค Rise of the planet of the apes เลย แต่ก็ไปหาซื้อ แผ่นเตรียมไว้แล้วหล่ะ โดยมีนักวิจารณ์ได้วิจารย์หนังภาค Rise ว่าดีกว่าภาคนี้( Dawn of the planet of the apes) แต่คนดูก็บอกว่าภาคล่าสุดนี่แหละสนุกมาก จริงๆแล้วก็คือ

หลายๆคนก็จะบอกว่าหนังช่วงแรกมันน่าจะง่วงไปหน่อย จริงๆเราไม่รู้สึกว่ามันง่วงเลยค่ะ เรารู้สึกว่าเรื่องนี้มันตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา แต่พอถามเพื่อน (ไปดูด้วยกัน) เพื่อนมันบอกว่าเฉยๆกับหนังเรื่องนี้ เพราะจริงๆเราสองคนปกติชอบดูหนังกันคนละแนวประมาณหนึ่ง

รีวิวหนังไซไฟ น่าดู โดยภาคนี้มันจะเล่าเหตุการณ์ต่อจาก ภาค Rise ก็คือ ภาค Rise จะเป็นการที่มนุษย์เอาลิงไปทดลองค่ะ เพื่อหายารักษาโรคที่เกิดจากการเสื่อมตัวของเซลล์ (พวกโรคอัลไซเมอร์) ไปๆมาๆ ทดลองแล้วก็กลายเป็นว่า

ยาที่มนุษย์ใช้ทดลองมันกลับทำให้เซลล์สมองของลิงเกิดการวิวัฒนาการขึ้นมามากค่ะ โดยเทคนิคในการทำภาพยนตร์ก็จะมีการใช้โมชัน แคปเจอร์ และมีเอฟเฟคที่สุดยอดจนเรานึกว่ามันเป็นการถ่ายทำโดยใช้ลิงจริง ไม่ใช่นักแสดง

นอกจากนั้นในภาคที่แล้ว การทดลองนอกจากทำให้ลิงฉลาดขึ้น ยังมีผลทำให้ลิงมีอาการเกรี้ยวกราดและไวรัสตัวนี้ ที่มันทำให้เกิดเชื้อไวรัส โดยในปี 2018 เชื้อไวรัส ALZ-113 ได้ระบาดและคร่าชีวิตคนทั้งโลกจนเหลือกลุ่มที่มีภูมิต้านทานโรคนี้เพียงไม่กี่คน

โดยจากสถิตินั้นใน 500 คน จะรอดมา 1 คนค่ะ โดยในภาคนี้มนุษย์ที่เหลือรอดมาจากเชื้อไวรัส ก็รวมกลุ่มกันอยู่ ซึ่งในภาค Dawn of the planet of the apes สถานที่ในเรื่องก็คือซานฟรานซิสโกคะ ที่มนุษย์ซึ่งรอดชีวิตมารวมตัวกันอาศัยอยู่ ภายใต้การปกครองของเดรย์ฟัส(แสดงโดย แกรี่ โอลแมน)

เนื้อเรื่องภาคนี้จะเกิดขึ้น 10 ปีให้หลัง โดยที่ซีซาร์(ในภาคที่แล้ว) ก็กลายเป็นจ่าฝูงของลิงทั้งหมดไปแล้ว และมีการสร้างสังคมเป็นหมู่บ้าน และมีการสื่อสารกันด้วยภาษาและท่าทางอย่างง่ายๆ ก็คือลิงได้อยู่ในช่วงวิวัฒนาการ ทั้งเรื่องเราจะเห็นเวลาลิงพูดกันเอง บางทีก็ใช้ภาษาคน(ภาษาอังกฤษ) บางทีก็ใช้ภาษาลิงในเรื่อง

ซึ่งบางคนจะบอกว่าไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ให้ลิงสามารถพูดได้จริงๆไปเลย เนื่องจากเวลาดูมันเหมือนหนังเงียบ คือเห็นแค่ลิงทำมือทำไม้ ส่งเสียงนิดๆหน่อยๆมีตัวที่พูดเป็นภาษามนุษย์ไม่กี่ตัว ซึ่งต้องเข้าใจว่า ลิงในภาคนี้ยังอยู่ในช่วงวิวัฒนาการ นั่นก็คือมันเริ่มคุยกันและสร้างภาษาของตัวเองได้ รวมถึงพูดภาษามนุษย์ได้นิดๆหน่อยๆ การทำแบบนี้ทำให้เรื่องดูสมจริงดีแล้วค่ะ ดีกว่าให้ลิงมันพูดได้เลย

สำหรับส่วนนี้ แน่นอนว่าจะเล่าเรื่องนิดๆตอนช่วงต้นเรื่องให้เข้าใจแบบพยายามจะไม่สปอยล์ค่ะ และก็จะอธิบายส่วนของความรู้สึกที่ได้ดูเรื่องนี้ ขอไม่เล่าเรื่องทั้งหมดนะคะ ซึ่งเอนทรี่นี้เราได้ใส่ส่วนที่เป็นความคิดเห็นหลังดูเรื่องนี้ของเราค่อนข้างมาก ซึ่งมันทำให้เราคิดถึงประเด็นอื่นๆที่น่าคิดและสิ่งที่ตกตะกอนขึ้นมาหลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้ มันทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง

จริงๆตอนเราดูเทรลเลอร์เรื่องนี้ เราไม่ได้อยากดูเป็นพิเศษค่ะ ที่อยากดูเนื่องจากคะแนนรีวิวเรื่องนี้สูงมากเว็บมะเขือเน่าให้รีวิวเรื่องไป 91% และรวมไปถึงรีวิวในเว็บไซต์อื่นๆต่างบอกว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่ดี น่าดูที่สุดในรอบซัมเมอร์นี้

รีวิว Dawn of the planet of the apes การต่อสู้ระหว่างครกับวานร

สำหรับเรื่องนี้ ด้วยความที่เราไม่เคยดูภาคที่แล้วมาก่อน ทำให้ background ต่างๆของเรื่องยังไม่เข้าใจ ถ้าอยากดูเรื่องนี้ ด้วยความสนุกและอินกับเนื้อเรื่องและฉากดรามาในเรื่องมากขึ้น ควรไปดูภาคที่แล้ว ว่าคนทำอะไรไว้กับลิงบ้าง

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น จะพบว่าในหนังก็คือ กรรมตามทันมนุษย์ค่ะ มนุษย์กลายเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มน้อยบนโลกนี้ โดยที่แน่นอนว่า ที่ผ่านมามนุษย์ถือว่าเป็นสัตว์ที่ครองโลกก็ว่าได้ ด้วยความที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสมองซับซ้อน มนุษย์จึงหลงว่าตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์ที่จะต้องครองโลกตลอดไป มันก็เหมือนกับยุคไดโนเสาร์ครองโลกมาหลายๆช่วงและสุดท้ายก็สูญพันธุ์ไปเนื่องจากไม่สามารถรอดจากภัยธรรมชาติ

เราต้องเข้าใจว่า เหนือเรานี้ยังมีพลังที่เราไม่ล่วงรู้ควบคุมจักรวาลนี้อยู่ บางคนอาจจะเรียกว่า พลังจักรวาล บางคนอาจจะเรียกว่าพระเจ้า ซึ่งถึงคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องนี้ก็ตาม สิ่งนี้ควบคุมจักรวาลให้ดำเนินไป ควบคุมระบบสุริยะ แกแลกซี่อื่นๆ ควบคุมหมู่ดาว ไม่ให้ชนกัน(เมื่อยังไม่ถึงเวลา) รวมถึงพลังในการสร้างสรรพสิ่ง แน่นอนว่าบางอย่างเราไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ในยุคนี้

แต่มันเหมือนกับการที่เราโยนแอปเปิ้ลแล้วตกลงพื้นทุกครั้ง นั่นก็คือพลังที่มีอยู่จริง แต่เรามองไม่เห็น เหมือนกับไฟฟ้า หรือคลื่นโทรศัพท์มือถือ สิ่งที่ทำให้วัตถุตกลงพื้นทุกครั้งนั่นก็คือ แรงดึงดูดของโลก จักรวาลนี้ก็ดำเนินไปในลักษณะเดียวกัน นั่นก็คือ

มีการเกิดและแตกดับของสรรพสิ่งไปตามกาลเวลา โดยมีพลังงานบางอย่างควบคุมอยู่เบื้องหลัง ที่เราไม่สามารถมองเห็นพลังนั้นได้โดยตรงและวิทยาการในปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างที่บอกสิ่งเหล่านี้นั้น

แน่นอนว่าในอนาคตมันอาจจะมีการทดลองลักษณะนั้นจริงๆแล้วสิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นจริงๆก็ได้ค่ะ ถ้ามองความเป็นไปได้จากในหนัง ซึ่งถ้าเราดู ก็จะพบว่า ในอดีตก็จะมีโรคที่เป็นแล้วตายอยู่เยอะ แต่ในปัจจุบันสามารถหายาแก้ได้ เช่น พวกไทฟอยด์ รีวิวหนังฮิต

รีวิว Dawn of the planet of the apes รุ่งอรุณแห่งพิภพวานร

รีวิว Dawn of the planet of the apes อย่าพลาดน่าดู

ถ้าเราดูหนังฮอลลีวูดยุคใหม่ๆ เราจะรู้ว่า อเมริกาก็รับทราบดีแล้วว่าจีนเป็นประเทศมหาอำนาจตอนนี้ค่ะ นอกจากนี้ตอนนี้อเมริกาก็อ่อนแอพอสมควรจากการที่เป็นประเทศมหาอำนาจตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบันโดยคนอเมริกันได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2008,2010 แล้วก็ในตอนนี้กลุ่มมหาอำนาจก็คานอำนาจกันอยู่

โดยที่ตัวสำคัญคือจีนนี่เป็นฐานของอุตสาหกรรมหลายๆอย่าง และเป็นประเทศมหาอำนาจใหม่ซึ่งเป็นเอเชีย โลกก็เลยยังมีสันติสุขอยู่ทุกวันนี้ เพราะระหว่างตะวันออกกับตะวันตกนั้น ก็คือเริ่มจะมีอำนาจที่ใกล้เคียงกันในยุคปัจจุบัน ก็เลยไม่มีใครกล้าทำอะไรใครก่อนแน่นอนค่ะ

โดยในเรื่อง Dawn of the planet of the apes นั้น มันไม่ใช่หนังดราม่าซาบซึ้งถึงมิตรภาพภาพสวยงสม งานซีจี เอฟเฟคกระแทกตาทุกช็อต ถ้าเราได้รับรู้ถึงเบื่องหลังการทำเรื่องนี้ จะรู้ว่าบทหนังเรื่องนี้ไม่ธรรมดานะ ในรีวิวต่างประเทศเขาถึงกับชมว่า มันมีการแทรกเรื่องของการเมืองด้วยส่วนหนึ่งในหนัง(กำลังนึกอยู่ว่ามันตอนไหนบ้าง)

รวมไปถึงมีการแสดงความขัดแย้งอย่างชัดเจน และวิวัฒนาการเพื่อการเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนหรือลิง นั่นก็คือ …ทุกฝ่ายไม่ไว้ใจกันเนื่องจากคิดว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายตัวเอง ซึ่งนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของสงครามทั้งสิ้น โดยเราอาจจะรู้สึกว่า

โอ๊ย!ไม่หรอก สงครามมันไกลตัว ไม่เห็นจะต้องไปคิดมาก ถ้าคุณพูดแบบนี้ แปลว่าคุณอาจจะยังรู้จักโลกใบนี้น้อยเกินไป เนื่องจากสงครามมันก็มีอยู่รอบๆตัวคุณเอง เพียงแต่คุณไม่ได้ถือปืน ใส่ชุดทหารไปฆ่าคน เท่านั้น

เราจะเห็นได้เลยว่า Dawn of the planet of the apes ได้ทำให้เราเห็นชัดๆ ว่าถ้าเรานั้นมีความฉลาดเหนือคน และมองคนอื่นว่าโง่นั้น เราได้พ่ายแพ้สงครามในใจของตัวเองไปแล้ว และสิ่งนั้นมันจะย้อนกลับมาทำลายตัวคุณเองในที่สุด

หนังเรื่องนี้ สะท้อนให้เห็นเกี่ยวกับความคิดของตัวละคร

เมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้ มันทำให้เราจะรู้ว่า การที่ลิงมันมีความคิดต่างๆ เช่น ซีซาร์ที่ยังให้ความไว้ใจมนุษย์ นั่นก็คือส่วนหนึ่งของใจเขา คิดว่ามนุษย์ไม่ได้เลวไปซะหมดทุกคน ในขณะเดียวกันเขาไว้ใจวานรที่เป็นพรรคพวกของตัวเอง เพราะซีซาร์คิดว่าวานรไม่ฆ่ากันเอง

ซึ่งเราต้องไปดูในเรื่อง ว่าตัวซีซาร์นั้น เขาได้บทเรียนอะไรจากเรื่องที่เกิดขึ้นในภาคนี้บ้าง ซึ่งถ้าเราดูเรื่องนี้ เราอาจจะไม่ได้เอนเอียงไปฝั่งคนหรือลิงทั้งหมด รวมไปถึงอาจจะมีคนบางส่วนที่เห็นใจคนหรือลิงที่เรียกได้ว่าชั่วในเรื่อง เนื่องจากพวกเขาเคยถูกกระทำ หรือมีต้นเหตุอะไรบางอย่างที่ทำให้เกลียดชังซึ่งกันและกัน

แน่นอนว่ามันคือสีเทา ไม่ใช่ขาว หรือดำ นั่นก็คือ คนชั่วนั้นมีอุดมการณ์ของตัวเองและคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเหมาะสม ซึ่งการกระทำของคนชั่ว สุดท้ายมันจะย้อนไปทำลายตัวเองในที่สุด แต่คนเรานั้นเป็นสีเทาๆ เริ่มต้นมาตอนเราเป็นทารก นั่นแหละคือผ้าขาวที่แท้จริง

ที่จะถูกแต่งแต้มสีอะไรก็ได้เข้าไป เมื่อเราเลยวัยทารกมาแล้ว แน่นอนว่าในช่วงที่เราเจริญเติบโต เราอาจจะทำผิดพลาดในชีวิต หรือเรียกว่าสิ่งที่เลวไปบ้าง โดยไม่มีใครในโลกนี้ที่เกิดเป็นคนแล้วไม่เคยทำผิดอะไรเลย

ในมุมมองของคนอื่นๆในบางเรื่องคุณอาจจะทำผิดในสายตาเขา ทั้งๆที่ตัวคุณเองนั้นคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ได้ ถ้าคุณไปดูเรื่อง Dawn of the planet of the apes คุณก็จะเข้าใจ ว่าจริงๆแล้วทำไมสงครามต้องเกิดขึ้น มันเกิดได้ยังไง ได้รู้ว่าอะไรคือ ถูก,ผิด ดีหรือเลว ซึ่งเป็นกรอบของสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่าวิวัฒนาการไปขั้นกว่า

ซึ่งมีสิ่งที่ตัดสินว่า อะไรดี อะไรเลว นั่นก็คือมิติที่เรากำลังอาศัยอยู่ ซึ่งถ้าเราเกิดเป็นจุลชีวัน แน่นอนว่าคุณไม่มีการทำดีทำชั่วแน่นอนค่ะ คุณแค่มีชีวิตอยู่และทำในสิ่งทีเป็นสัญชาติญาณของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นๆ เช่น การที่สิงโตออกล่ากวาง

มันไม่ได้ทำเลวมันแค่ทำตามสัญชาติญาณในการอยู่รอด สิงโตหรือเสือ มันจะออกล่าในเวลาที่มันหิวเท่านั้น และออกล่าเหยื่อครั้งหนึ่งมันจะกินจนหมด ก่อนที่จะออกล่าต่อ คนนั่นแหละที่บัญญัติเอง ว่าอะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว

สำหรับเรื่องความดีความชั่วและการทำเลว การแก้ไขปัญหาของบ้านเราคือมันเหมือนกับการที่เราเอาหมาเน่าซ่อนใต้พรม นั่นก็คือ คนก็ต้องพบมันเข้าสักวันค่ะ คือส่วนมากก็มักจะแก้ไขที่ปลายเหตุตลอดไม่ใช่ต้นเหตุ รวมไปถึงเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา เช่นอาชญากรรมต่างๆก็โทษเกมที่มีความรุนแรงมั่ง,โทษโน่นโทษนี่ไปเรื่อย

แต่ไม่ได้โทษตัวคนที่ทำผิดเองค่ะ ซึ่งการที่จะแก้ปัญหาอะไรก็ตามในชีวิตคุณ คุณต้องรู้ว่าปัญหามันคืออะไร มันอยู่ตรงไหนก่อน แล้วค่อยไปแก้ที่จุดนั้นๆ เหมือนกับถ้าเรากำลังจะขันน็อต เราต้องเลือกไขควงที่หัวตรงกัน

ในเรื่องภาคนี้ ทำไมคนบางส่วนถึงเกลียดลิง,ทำไมคนส่วนหนึ่งถึงคิดว่าจะลองทำสันติวิธีคือการเจรจาดีๆ ทำไมลิงบางส่วนถึงเกลียดคน นั่นก็คือโลกที่คนๆนั้นหรือลิงตัวนั้นได้สัมผัสมาเป็นตัวกำหนดมาตรวัดหรือความรู้สึกต่างๆที่มีต่อกันและกัน เช่น โคบาเกลียดคนเพราะเคยถูกทรมาน หรือซีซาร์รักคนเนื่องจากมีประสบการณ์ที่ดีกับคนมาก่อน

ข้อมุลของหนังเรื่องนี้

ถ้าไอดอลคนนั้นไม่ได้มีพฤติกรรมแย่อะไร บางคนก็อาจจะบอก กลัวทำไม เด็กมันคิดได้นะ ว่ามันควรทำอะไร ถ้ามันเห็น หรือได้ยินข่าวว่าดารา,หรือไอดอลที่ชอบทำเรื่องที่บางคนอาจจะมองว่าเรื่องเล็กน้อย นั่นก็คือ สูบบุหรี่ กินเหล้า คนเป็นไอดอล ไม่ว่าจะเสพย์อะไรก็ตาม หรือทำตัวแย่แค่ไหน

ก็จะมีคนที่อยากจะติดตามเขาและอยากเลียนแบบเขาเข่นกัน ซึ่งเรื่องนี้มันแก้ยากค่ะ เพราะว่าแต่ละคนมีเหตุผลในการเลือกไอดอลของตัวเองไม่เหมือนกัน และไอดอลก็เป็นคนที่สามารถทำสิ่งที่ผิดพลาดได้เช่นกัน มีทั้งโดยเจตนาและไม่ได้เจตนา

ชื่อภาพยนตร์: Dawn of the Planet of the Apes / รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร
ผู้กำกับภาพยนตร์: Matt Reeves
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Rick Jaffa (written by), Amanda Silver (written by), Mark Bomback (written by), Rick Jaffa (characters), Amanda Silver (characters), Pierre Boulle (novel “La Planète des Singes”)
นักแสดงนำ: Gary Oldman, Keri Russell, Andy Serkis, Keri Russell, Toby Kebbell
แนว/ประเภท: Action, Drama, Sci-Fi, Thriller
ความยาว: 130 นาที
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 10 กรกฎาคม 2557
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Chernin Entertainment