รีวิว The Flash 2023 ฮีโร่ที่มีความไวอยู่เหนือกาลเวลา

รีวิว The Flash 2023 ฮีโร่ที่มีความไวอยู่เหนือกาลเวลา

ใครที่กำลังอยากจะ ดูหนังออนไลน์ และชอบหนังฮีโร่วันนี้ก็ต้องเรื่องนี้เลยกับ The Flash 2023 หรือ เดอะแฟลช 2023 หลังจากช่วงมหกรรมโควิด 19 ได้ผ่านพ้นไป หลังจากที่มีข่าวลือออกมามากมาย ก็ถึงเวลาของภาพยนตร์เรื่องนี้สักทีหลังจากรอคอยกันมา 4 ปี ก็จะมีโอกาสจะอวดโฉมตัวเองให้ผู้ชมได้ประจักษ์กันบนตาเนื้อของทุกท่านกันแล้ว หลังจากเราได้แต่เสพข่าวการฉายรอบทดลองที่มีแต่คนอวยยศกันมาแรมปี และการฉายครั้งนี้ยังมีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ของหนังซูเปอร์ฮีโรจากดีซี คอมิกอีกด้วย

Barry Allen หรือ The Flash ตัวเขาทำงานที่นิติเวชแห่งเซ็นทรัล ซิตี้ อีกทั้งยังเป็นซูเปอร์ฮีโรในนาม The Flash ไม่ว่าตัวเขาจะพยายามช่วยและปอกป้องโลกแค่ไหนแต่ Barry Allen ต้องเผชิญความอยุติธรรมเมื่อพ่อต้องรับกรรมจากคดีฆาตกรรมแม่ตัวเองทั้งที่ไม่ได้ทำผิด และในวันหนึ่ง Barry Allen ก็พบความสามารถของสปีดฟอร์ซตัวเองที่ทำให้เขาย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตจนทำให้

นายพลซอร์ด (ไมเคิล แชนนอน – Michael Shannon) คู่ปรับซูเปอร์แมนโผล่มาทำลายโลก อีกทั้ง Barry Allen อีกคนที่เขาได้เจอดันเป็นคนที่ไม่มีพลังอะไรเลย งานนี้เขาจำเป็นต้องรวมทีมเมตาฮิวแมนเพื่อต่อกรกับนายพลซอร์ด ก่อนโลกใบนี้จะถูกทำลายแบบไม่เหลือซาก

สำหรับนักเขียนบท หนังไซไฟ มีอาชีพและมากความสามารถอย่าง  Christina Hodson ที่มาคู่กับ Joby Harold ซึ่งได้รังสรรหนังออกมาได้เป็นอย่างดี เพราะโจทย์ยากของ The Flash คือหนังมาตามหลัง Justice League ซึ่งไม่เคยบอกที่มาของเดอะแฟลชและการจะมาเล่าต้นกำเนิดตรงๆ ก็ดูไม่เข้าท่าเพราะผู้ชมได้เห็น มิลเลอร์ในฐานะ เดอะ แฟลช ไปแล้ว ดังนั้นหนังจึงอาศัยช่องว่างของประเด็นที่ยังไม่เคยพูดถึง

ที่ต้องกลายกลายมาเป็นเชลย เฮนรี อัลเลน บิดาผู้น่าสงสารของแบรี ที่ต้องเข้าไปอยู่ในคุกในข้อกล่าวหาว่าตัวเค้าได้ฆ่าแม่ตัวเอง และหลังจากเขาบังเอิญใช้พลังของสปีดสเตอร์จนสามารถเดินทางย้อนเวลาได้  เควสต์สำคัญของแบรี

คือการพยายามกลับไปแก้ไขอดีตเพื่อให้เขาได้เจอครอบครัวตัวเองพร้อมหน้าอีกครั้ง นั่นทำให้สองมือเขียนบทอย่างฮอดสัน สามารถสานต่อประเด็นทั้งการบอกที่มาของพลังความเร็วเหนือแสง ผ่าน แบรี อัลเลน อีกคนที่ยังไม่มีพลัง หรือการปูดราม่าครอบครัวที่จะส่งผลให้เกิดผลกระทบทางอารมณ์ต่อผู้ชมอย่างรุนแรงในตอนท้าย ซึ่งขอเตือนว่าใครบ่อน้ำตาตื้นควรพกทิชชู่เข้าโรงหนังด้วย

ถ้าให้พูดถึง The Flash นักแสดงทุกคนที่รับบท The Flash แต่ละคนต่างก็มีเอกลักษณ์ประจำตัวไม่เหมือนกัน อย่าง John Wesley Shipp ในเวอร์ชันซีรีส์ปี 1990 ก็แทนภาพฮีโรสุดล่ำที่มีพลังความเร็วแสงหรือจะเป็น rant Gustin นักแสดงเท้าไฟจากซีรีส์ Glee ที่มารับบท Barry Allen หรือ The Flash ฉบับซีรีส์ตั้งแต่ปี 2014 ถึงปัจจุบันที่สร้างภาพจำของ The Flash ยุคใหม่หน้าหล่อและมีมูฟเมนต์ที่น่าจดจำจนแฟน ๆ ยกย่องให้เขากลายเป็น The Flash ที่ดีที่สุด

The Flash ที่เป็นผลงานของ Ezra Miller จุดเด่นของเค้าก็คงจะเป็นการที่เป็น คนที่ค่อนข้างจะเหมือนจะดูเพี่ยนๆที่คลายๆ ผู้กำกับเอาคาแรกเตอร์ของมิลเลอร์ บางส่วนมาดัดแปลงให้เข้ากับบุคลิกของ Barry Allen  ซึ่งมีทั้งความฮาจากบุคลิก ล่ก ๆ  และ มุกด้านงานภาพที่ใช้ความสามารถในการเคลื่อนที่ในระดับความไวเหนือแสงของ The Flash มาสร้างเสียงหัวเราะ ได้ดีทีเดียว

นอกจากนี้หนังยังใส่บทดราม่าที่เราขอไม่สปอยล์ แต่อยากจะบอกว่ามิลเลอร์ได้ทำให้ชะตากรรมของ สปีดสเตอร์ อย่างเดอะแฟลช ทั้งน่าเห็นใจ และเราอดเสียน้ำตาให้เขาไม่ได้เลย

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้อีกอย่างก็คงต้องเป็นตัวอย่างหนังคือการปรากฎตัวของ Batman สองยุค  ได้แก่ ฉบับ Sniderverse ที่รับบทโดย Ben Affleck และฉบับคลาสสิกของผู้กำกับ Tim Burton ที่ได้ Michael Keaton แบทแมนในดวงใจใครหลายคนกลับมาสวมชุดค้างคาวอีกครั้ง

ซึ่งบอกกันตามตรงว่า หนังเหมือนจะให้น้ำหนักกับแบทแมนของคีตันเสียมากกว่า ไม่ใช่ว่า ฉบับแอฟเฟล็ก โผล่มาน้อยจนน่าเกลียดนะครับ ตรงกันข้าม แบทแมนสไนเดอร์เวิร์ส ถือว่าถูกนำเสนออย่างให้เกียรติกับ แซ็ก สไนเดอร์ มากเลย เพียงแต่ด้วยโครงเรื่องที่มีการเดินทางข้ามเวลา เลยทำให้ บรูซ เวย์น ของ คีตัน ถูกให้ความสำคัญมากที่สุด

และที่สำคัญคือการปรากฎตัวของ ไมเคิล คีตัน แต่ละครั้งเต็มไปด้วยความไฮป์จนเด็กยุค 90’s อดกรีดร้องไม่ได้จริง ๆ  ที่สำคัญคือบทภาพยนตร์ก็ทำให้คาแรกเตอร์ของคีตันมีผลต่อเนื้อเรื่องมาก ๆ ไม่ได้โผล่มาเซอร์ไพร์สแบบมีที่มาที่ไป และยังได้แสดงความชาญฉลาดในฐานะกุนซือของทีมฮีโรอีกด้วย

อีกทั้งในหนังยังได้เล่าถึง Supergirl ฮีโร่ตัวใหม่อีกตัวหนึ่งในซีรี่ส์ Marvel ที่มาจากแห่งดาวคริปตัน และพึ่งจะมีหนังออกมาอย่าง Supergirl ต้องบอกว่าดีไซน์มาได้จัดจ้านมาก และการได้ Sasha Calle มารับบท Kara Zor-El ญาติผู้น้องของ Superman ก็ทำให้คาแรกเตอร์ Supergirl ของแคลล์ถูกตีความให้มีความแข็งแกร่งและดูบอยกว่าฉบับซีรีส์ที่รับบทโดย  Melissa Benoist

ซึ่งมันทำให้เราเชื่อได้เลยว่า เพศของชาวคริปตันไม่ได้มีปัญหาในการปกป้องโลกจริง ๆ และต้องยอมรับว่าภาพหลายมุมในหนังทำให้แคลล์ มีเสน่ห์กร้าวใจกับทั้งหนุ่ม ๆ และสาว ๆ ได้ไม่ยากเลยจริง ๆ จะมีติงก็แค่ หากเทียบคาแรกเตอร์ของเธอกับเดอะ แฟลชและแบทแมนของคีตันแล้ว หลายซีนอาจจะทำให้เธอดูไม่เด่นเท่าที่ควร

ผมคิดว่าหลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ผมว่าเป็นหนังที่ดีมากๆจากทุกๆภาค แต่อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของ Andy Muschietti ผู้นั้งปังเหียนหนังว่าเขาต้องการยกย่องเจตนารมณ์ของ  Zack Snider ที่เคยวางแผนให้กับจักรวาล DC ซึ่งก็แน่นอนว่า เซอร์ไพร์สดังกล่าวก็อยู่ในคำพูดนี้ด้วย  หรือกระทั่งภาพยนตร์และซีรีส์ในจักรวาลฮีโร DC ต่าง ๆ ก็อดทำให้ผู้ชมที่เป็นแฟน ๆ ของ DC กรีดร้องและอดพูดคำว่า มันบ้าเกินไปแล้ว ไม่ได้จริง ๆ

ชื่อภาพยนตร์ The Flash / เดอะ แฟลช

กำกับ Andy Muschietti

เขียนบท Christina Hodson, Joby Harold

แสดงนำ Sasha Calle, Ben Affleck, Ezra Miller, Michael Keaton, Michael Shannon

แนว/ประเภท แอ็คชัน, ผจญภัย, แฟนตาซี, ไซไฟ

เรท PG-13

ความยาว 144 นาที

ปี 2023

สัญชาติ สหรัฐอเมริกา

เข้าฉายในไทย 15 มิถุนายน 2023

ผลิต/จัดจำหน่าย DC Comics, DC Entertainment, Warner Bros